Phones





BPP ไตรมาส4จ่ายไฟฟ้าเพิ่ม421MW

2020-08-13 18:06:20 396



นิวส์ คอนเน็คท์ – BPP ไตรมาส 4/63 COD โรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น รวมกำลังการผลิต 421 เมกะวัตต์ ลุยเดินหน้าขยายกำลังการผลิต 5,300 เมกะวัตต์ในปี 68 ขณะผลงานครึ่งแรก 63 มีกำไรจากการดำเนินงานรวม 2,222 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสที่ 4/63 เตรียมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 โครงการรวมกำลังการผลิต 421 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าซานซีลู่กวงในจีน กำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุน 396 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 2 แห่งกำลังการผลิตรวม 25 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยสนับสนับรายได้ปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลมหวินเจา ระยะที่ 1 ในประเทศเวียดนาม กำลังผลิต 30 เมกะวัตต์จะเลื่อนไป COD ในไตรมาส 1/64 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การขนส่งอุปกรณ์ก่อสร้างจากประเทศต้นทางล่าช้า


นอกจากนี้ BPP ยังคงมองหาโอกาสขยายการลงทุนเพื่อการเติบโตบนพื้นฐานการบริหารงบลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในประเทศที่ดำเนินธุรกิจอยู่และประเทศที่มีศักยภาพ รวมถึงมุ่งผนึกพลังร่วมกับกลุ่มบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการวางแผนและพัฒนาธุรกิจผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะการศึกษาความเป็นไปได้การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา และโครงการไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายการขยายกำลังผลิตให้ถึง 5,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า โดยเน้นกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียน 800 เมกะวัตต์ ภายในปี 68 พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่รักษาสมดุลระหว่างผลตอบแทนและกระแสเงินสดอย่างเหมาะสม และมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environmental, Social and Governance: ESG) เพื่อเพิ่มมูลค่าที่ยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้เสีย


สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก 63 BPP ยังคงสามารถสร้างกำไรต่อเนื่อง โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ 2,829 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานรวม 2,222 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าทุกแห่งที่สามารถรักษาเสถียรภาพในการจ่ายไฟและตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความท้าทายจากวิกฤติการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา
ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 2/63 BPP มีรายได้รวมจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมทั้ง 3 แห่งในจีนจำนวน 1,061 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน เป็นผลมาจากปริมาณการขายไฟฟ้าและไอน้ำในเขตพื้นที่ที่โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ และจากการปรับตัวลงของราคาต้นทุนถ่านหินในจีน ทำให้บริษัทฯ สามารถรักษากำไรขั้นต้นที่ 12% โดยราคาต้นทุนถ่านหินเฉลี่ยในไตรมาสนี้อยู่ที่ 540 หยวนต่อตัน ลดลงร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้าที่ราคาถ่านหินเฉลี่ยอยู่ที่ 605 หยวนต่อตัน


พร้อมกันนี้ BPP ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจำนวน 806 ล้านบาท โดยโรงไฟฟ้าบีแอลซีพียังมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราความพร้อมจ่ายกระแสไฟฟ้า (Equivalent Availability Factor: EAF) ที่100% โดยรายงานส่วนแบ่งกำไรจำนวน 489 ล้านบาท ซึ่งได้รวมผลขาดทุนจากการแปลงค่าสกุลเงินแล้วจำนวน 120 ล้านบาท และผลบวกจากภาษีเงินได้รอตัดบัญชีจำนวน 44 ล้านบาท


ส่วนโรงไฟฟ้าหงสาหน่วยผลิตที่ 3 มีการหยุดเดินเครื่องในช่วงระหว่างปลายเดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคม 63 นั้นเป็นแผนซ่อมบำรุงใหญ่เพื่อประสิทธิภาพและเสถียรภาพของการเดินเครื่องในระยะยาว ทำให้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรทั้งสิ้น 407 ล้านบาท ส่วนธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีพลังงานภายใต้การลงทุนผ่าน บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ได้รายงานส่วนแบ่งขาดทุนจำนวน 90 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานในธุรกิจเหล่านี้นั้นช่วยตอกย้ำการเปลี่ยนผ่านธุรกิจตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ของกลุ่มบริษัทบ้านปูฯ ที่มุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับโลกทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews