Phones





PTG ไตรมาส2/63โกยกำไร513ล้านโต20%

2020-08-14 07:54:18 397




นิวส์ คอนเน็คท์ - PTG ไตรมาส 2/63 มีรายได้จากการขายและบริการ 2.2 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 513 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.3% ขณะที่ EBITDA เพิ่มขึ้น 21.2% คาดครึ่งปีหลังปริมาณการจำหน่ายน้ำมันฟื้นตัว พร้อมเพิ่มงบลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 พีทีจีมีรายได้จากการขายและการบริการอยู่ที่ 22,257 ล้านบาท ลดลง 30.1% จากปีที่แล้ว และลดลง 23.6% จากไตรมาสที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากราคาขายน้ำมันที่ปรับตัวลดลงเฉลี่ย 30.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และลดลงเฉลี่ย 22.8% จากไตรมาสที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันโลกค่อนข้างมีเสถียรภาพ และไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาน้ำมันหน้าสถานีบริการที่ลดลงเร็วกว่าต้นทุนนในถังเหมือนในไตรมาส 1/2563 ทำให้ค่าการตลาดในไตรมาส 2 ปี 2563 ดีขึ้น ส่งผลให้พีทีจีมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 2,745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 23.0% จากไตรมาสก่อน


ขณะที่พีทีจีมี EBITDA อยู่ที่ 1,646 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 36.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 513 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.3% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 150.8% จากไตรมาสก่อน โดยหากไม่นำผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 16 มาคำนวณ บริษัทจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 574 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว


ทั้งนี้ ไตรมาส 2 ปี 2563 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ค่อนข้างมาก จากมาตรการล็อคดาวน์ประเทศของภาครัฐในการลดการระบาดของไวรัสดังกล่าว ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเดินทางในประเทศชะลอตัวลงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันภาพรวมของประเทศลดลง 7.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และลดลง 5.6% จากไตรมาสที่แล้ว


อย่างไรก็ตาม ปริมาณการจำหน่ายน้มันของพีทีจีไม่ได้ปรับตัวลดลงเหมือนกับอุตสาหกรรม โดยไตรมาส 2 ปี 2563 พีทีจีมีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งสิ้น 1,205 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 0.3% จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว แต่ลดลงจากไตรมาสที่แล้ว 1.0% เนื่องจากฐานลูกค้าหลักของพีทีจีเป็นผู้ใช้น้ำมันดีเซล หรือผู้ใช้น้ำมันเพื่อการประกอบอาชีพ โดยพีทีจีมีสัดส่วนปริมาณการจำหน่ายดีเซล 74.3% ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งหมด ทั้งนี้ปริมาณจำหน่ายน้ำมันดีเซลของพีทีจีเพิ่มขึ้น 2.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 1.1% จากไตรมาสก่อน ส่วนน้ำมันเบนซินลดลง 6.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และลดลง 6.4% จากไตรมาสที่แล้ว โดยพีทีจียังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดผ่านทุกช่องทางเป็นอันดับที่ 2 และสามารถเพิ่มสัดส่วนเป็น 14.8%


สำหรับแนวทางการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 2563 คาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศจะเริ่มกลับมาเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในส่วนของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันของพีทีในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโต 8–12% จากปีที่แล้ว โดยปรับประมาณการจาก 15–17% และคาดว่าทั้งปีจะเติบโตที่ 6–10% จากเดิมคาดโต 10–12% โดยพีทีจียังคงเป้าการขยายสาขาของสถานีบริการน้ำมันและแก๊สแอลพีจีที่ 50–100 สาขา การขยายสาขาธุรกิจ Non-Oil 100 สาขา โดยตั้งงบประมาณการลงทุนอยู่ที่ 3,000 – 3,500 ล้านบาท เพิ่มจากเดิมที่ตั้งไว้ 2,000 –2,500 ล้านบาท


นายพิทักษ์ กล่าวอีกว่า จากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (13 ส.ค. 63 ) ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2562 - 31 ธ.ค. 2562  เป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 334 ล้านบาท โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 27 ส.ค. 63 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 ต.ค. 2563


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews