Phones





UAC ครึ่งปีแรกกำไร131ล้าน​ ลุยลงทุนหนุนโตแกร่ง

2020-08-14 13:17:02 463



นิวส์​ คอนเน็คท์​ -​ UAC ปรับกลยุทธ์การขายฝั่ง Trading รับมือผลกระทบจาก COVID-19 โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 63 มีรายได้รวม 719 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 131 ล้านบาท ด้าน CEO “ชัชพล ประสพโชค” พร้อมลุยขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานสะอาด ทั้งในประเทศและ CLMV พร้อมรักษาระดับของ Bottom Line และ EBITDA ให้ใกล้เคียงเป้า


เมื่อวันที่​ 14​ สิงหาคม​ 2563​ นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ จำนวน 719 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 131 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.8% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท โดย Gross Margin เพิ่มขึ้นจาก 10.7% มาอยู่ที่ 21.2% ขณะที่ EBITDA งวด 6 เดือนแรกปี 2563 อยู่ที่ 223 ล้านบาท​ จากเป้าหมายปี 2563 ที่ 350 ล้านบาท

ส่วนไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ ยอมรับว่า COVID-19 และราคาน้ำมันที่ผันผวนอย่างมากนั้น มีผลกระทบให้ยอดขาย Trading ชะลอลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งกำไรสุทธิของฝั่ง Trading ปรับลดเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายได้จากการขายและการให้บริการปรับตัวลงมาที่ 352 ล้านบาท​ แต่บริษัทได้มีการดำเนินงานและกลยุทธ์รองรับความเสี่ยงจาก COVID-19 ทำให้ Gross Margin ปรับตัวสูงขึ้นจาก 12.4% มาอยู่ที่ 18.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี2562

นอกจากนี้​ที่เด่นมากคือ​ ส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากเงินลงทุนในกิจการไบโอดีเซล ในไตรมาส​ 2​ ยังอยู่ในระดับดีจากอานิสงส์การส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยปรับให้มีการใช้น้ำมันดีเซลจาก B7 เป็น B10 และคาดว่าความต้องการน้ำมันดีเซลในครึ่งหลังของปี​ 63 มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามการผ่อนคลายเรื่องโควิด-19 ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจไบโอดีเซลให้เติบโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ด้านภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลัง 2563 บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ “25 ปี ก้าวต่อไปด้วยความยั่งยืน” ซึ่งประกอบไปด้วยแผนขยายการลงทุนทั้งในประเทศ และกลุ่มประเทศ CLMV เน้นสร้างอัตราการเติบโตในของธุรกิจให้ตอบโจทย์ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ Trading ธุรกิจสะอาดและธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน circular economy ในระดับภูมิภาคต่อไป

นอกจากนี้ ยังมองว่าหลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบการภาครัฐบาลเริ่มมีมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ในครึ่งปีหลังแนวโน้มกลุ่มผู้ประกอบการ รวมถึงกลุ่มบริษัทจดทะเบียน ก็เริ่มทยอยฟื้นตัวและกลับมาเปิดดำเนินการทางธุรกิจได้อีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจด้านการบริการและการท่องเที่ยว ซึ่งหากกลุ่มดังกล่าวฟื้นตัว ทำให้การบริโภคน้ำมันและพลังงานเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ UAC ได้อานิสงส์เชิงบวกต่อธุรกิจของบริษัทฯ ในการขับเคลื่อนองค์กร ให้มีการเติบโตและรักษาระดับของกำไร (Bottom Line) ให้ใกล้เคียงเป้าหมายเดิม และพยายามรักษา EBITDA ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้


ส่วนการลงทุนในสปป.ลาว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างในเฟสแรก ซึ่งเป็นโครงการบริหารจัดการขยะ เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ ส่วนเฟส 2 โรงไฟฟ้าขยะ ขนาด 6 เมกะวัตต์ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2564 ขณะที่โครงการอื่นๆ ของบริษัทฯ อาทิ โครงการที่แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และสุโขทัย ยังคงดำเนินการตามปกติ


ส่วนแผนลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชนนั้น มองว่าในเบื้องต้นอาจจะมีการล่าช้าจากแผนเดิม เนื่องจากต้องรอนโยบายความชัดเจนในเรื่องการส่งเสริมพลังงานของรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานคนใหม่ หลังจากที่มีการปรับ​ ครม. แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะมีการสานต่อนโยบายดังกล่าวอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามในช่วงก่อนหน้านี้บริษัทฯ เตรียมเอกสารพร้อมยื่นเข้าประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนรอบ Quick Win โดยจะเสนอโครงการก๊าซชีวภาพที่ภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ขนาด 3 เมกะวัตต์ ให้ทางกระทรวงพลังงานพิจารณา จากเป้าหมายการลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชนทั้งหมด 30 เมกะวัตต์


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews