Phones





RATCH เร่งปิดดีลครึ่งปีหลัง2-3โครงการ

2020-08-14 18:41:31 424




นิวส์ คอนเน็คท์ - RATCH อัดงบ 1.1 หมื่นล้านบาท เร่งปิดดีลครึ่งปีหลังอีก 2-3 โครงการ กว่า 537 เมกะวัตต์ หวังช่วยดันรายได้ปีนี้โตตามเป้า ขณะที่ปี 66 มั่นใจกำลังการผลิตทะลุ 10,000 เมกะวัตต์ พร้อมเล็งออกหุ้นกู้ 5-8 พันล้านบาทในไตรมาส 4/63 เสริมศักภาพการลงทุน


เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า จากเป้าหมายกำลังการผลิต 780 เมกะวัตต์ของปี 63 ในครึ่งปีแรก 63 นั้น บริษัทสามารถลงทุนขยายกำลังผลิตทั้งโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ 4 โครงการ และส่วนขยายของโรงไฟฟ้าเดิมอีก 1 โครงการ รวมกำลังกหารผลิตใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 243 เมกะวัตต์
ดังนั้น ในช่วงเครึ่งปีหลัง 63 บริษัทต้องหากำลังการผลิตเข้ามาเพิ่มอีกราว 537 เมกะวัตต์


โดยในช่วงครึ่งปีหลัง 63 อยู่ระหว่างสรุปการลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่ม 2-3 โครงการในประเทศไทย เวียดนาม สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ทั้งที่เป็นโครงการพลังงานหมุนเวียน เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ซึ่งเป็นการรูปแบบซื้อกิจการ (M&A) เพื่อให้สามารถรับรู้รายได้ทันที รวมถึงเป็นการลงทุนโครงการใหม่ โดยบริษัทเตรียมเงินลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังราว 11,300 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เพื่อเสริมสภาพคล่องในการลงทุนไตรมาส 4/63 บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ราว 5,000-8,000 ล้านบาท สำหรับใช้ชำระคืนหนี้ระยะสั้น 1,250 ล้านบาท และ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินลงทุน


ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้นเป็น 8,177.68 เมกะวัตต์ หากในครึ่งปีหลังสามารถลงทุนได้ตามเป้าหมาย จะส่งผลให้สิ้นปี 63 มีกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 8,714.68 เมกะวัตต์ และจะส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการในปี 63 ดีกว่าปี 62 ที่มีรายได้รวม 43,220 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5,963 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 63 มั่นใจว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก 63 เนื่องจากไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า ประกอบกับโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ น้ำงึม 2 กำลังการผลิตติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน เซน้ำน้อย กำลังผลิตติดตั้ง 410 เมกะวัตต์ ในสปป.ลาว ช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเพิ่มช่วยให้ผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น รวมถึงยังได้รับปัจจัยหนุนจากโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ รวมถึงการรับรายได้จากการให้บริการโครงข่ายสายใยแก้วนำแสง และยังรับรู้รายได้ในธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เซนเซอร์ และค่าเช่าสัญญา Sigfox คาดว่าปีนี้ให้บริการได้ 350 จุด


สำหรับผลประกอบการในครึ่งปีแรกปี 63 บริษัทมีรายได้รวม จำนวน 20,767.79 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากการขายและบริการและรายได้ตามสัญญาเช่าการเงินของโรงไฟฟ้าที่บริษัทควบคุมจำนวน 18,321.55 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 88.22% ส่วนแบ่งกำไรของกิจการร่วมทุนและเงินปันผล จำนวน 2,194.56 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10.57% และรายได้จากดอกเบี้ยและอื่นๆ จำนวน 251.68 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม ในปี 66 บริษัทมั่นใจว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ตามเป้าหมายที่ 10,000 เมกะวัตต์ ซึ่งยังเหลือประมาณ 1,300 เมกะวัตต์ จะทำให้บรรลุเป้าหมาย และมั่นใจว่าจะสามารถสร้างมูลค่ากิจการของบริษัทให้เติบโตถึงเป้าหมายที่ 200,000 ล้านบาท ในปี 66 ส่วนสัดส่วนธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผลิตไฟฟ้ามีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 20% ในปี 66 จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ที่ 5-10% ทั้งนี้ ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไฟฟ้านั้น บริษัทเตรียมร่วมกับพันธมิตรยื่นประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เส้น นครปฐม-ชะอำ ส่วนโครงการลงทุนในธุรกิจจัดหาเชื้อเพลิงชีวิมวล (Wood pellet) ที่จะลงทุนในสปป.ลาวนั้นคาดว่าจะสัมปทานเช่าพื้นที่ได้ไตรมาส 3/63 พื้นที่ 40,000 ไร่ แต่เบื้อต้นจะลงทุนก่อน 20,000 ไร่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาขายเชื้อเพลิงให้กับลูกค้าในจีน และเกาหลีใต้ไว้หลายราย

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews