นิวส์ คอนเน็คท์ - ETC พอใจราคาหุ้นเทรดวันแรก เชื่อนักลงทุนตอบรับดี พร้อมก้าวชิงงานทุกโปรเจ็กต์โรงไฟฟ้าขยะ หลังรัฐเปิดทางให้เอกชนเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะกว่า 700 MW

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETC เข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก โดยเปิดซื้อขายที่ราคา 4.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท หรือ 53.8% จากราคา IPO ที่ 2.60 บาทต่อหุ้น โดยมีแรงซื้อเข้ามาจนดันราคาขึ้นไปแตะระดับ 4.60 บาท หรือเพิ่มขึ้น 76.9% ก่อนจะถูกเทขายทำกำไรออกมา จนราคาลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 3.02 บาท และปิดครึ่งวันเช้า (12.30 น.) ที่ระดับ 3.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.64 บาท หรือ 24.62% ด้วยมูลค่าซื้อขายสูงอันดับหนึ่งที่ 3.91 พันล้านบาท

นายเอกรินทร์ เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ ETC เปิดเผยว่า บริษัทพอใจราคาหุ้นเปิดซื้อขายวันแรกเปิดที่ 4 บาท จากราคา IPO ที่ 2.60 บาท ราคาพาร์ 0.50บาท จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ให้ผลตอบรับเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าบริษัทจะประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื่อเพลิงขยะ (RDF) รายแรกที่เข้าจดทะเบียนในประเทศไทยก็ตาม สำหรับแผนการใช้เงินจากการระดมทุนหุ้นIPO ทางบริษัทจะนำไปไปชำระหนี้สถาบันการเงิน, ใช้เป็นเวินทุนหมุนเวียน และใช้เป็นเงินลงทุนพร้อมเข้าประมูลโครงการภาครัฐฯ

อนึ่ง การจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ไอพีโอ) จำนวน 600 ล้านหุ้นพร้อมหุ้นสามัญส่วนเกิน (Greenshoe Option) จำนวน 60 ล้านหุ้นกับ บล ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ในราคาหุ้นละ 2.60 บาท คิดเป็นมูลค่าการระดมทุน 1,560 ล้านบาท โดยหุ้นสามัญส่วนเกินอีก 60 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 10% ของจำนวนหุ้น IPO ทั้งหมด ปัจจุบันยังไม่ได้ใช้ โดยบริษัทได้จัดสรรหุ้นส่วนเกินดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน เนื่องจาก ETC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงที่มีความเสี่ยงเรื่องโรคระบาด

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในครึ่งหลัง บริษัทได้ศึกษาประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดของภาครัฐ อาทิเช่น โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นรูปแบบ Quick Win 100 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าขยะรูปแบบปกติ 600 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมอีก 44 เมกะวัตต์ โดยหวังเข้าร่วมทุกโปรเจ็กต์ ซึ่งภายหลังจากที่ระดมทุนในตลาดฯแล้วนั้น บริษัทมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว อีกทั้งสถาบันการเงินยังพร้อมสนับสนุนในทุกโครงการ ดังนั้นบริษัทจึงมีศักยภาพเพียงพอที่จะเข้าลงทุนไม่ต่ำกว่า 50 เมกะวัตต์

อีกทั้ง ยังจับมือกับพันธมิตรเวียดนามเพื่อศึกษาสร้างโรงไฟฟ้าขยะในประเทศเวียดนามร่วมกัน โดยปัจจุบันมีการบันทึกข้อตกลง (MOU) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนถัดไปนั้น ทางบริษัทยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 อย่างใกล้ชิด เมื่อสถานการณ์ต่างๆคลี่คลาย ทางบริษัทก็พร้อมพิจารณาการลงทุนต่อไป

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews