นิวส์ คอนเน็คท์- PTT ชี้แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังดีขึ้นกว่าครึ่งแรก หลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว คาดยอดขายเติบโต แต่ยังกังวลโควิดระบาดรอบ2 จับตาสงครามการค้า ลุยเดินหน้าลงทุนเต็มพิกัด

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รับมอบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 63 มีแนวโน้มจะเติบโตดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก 63 ที่มีกำไรสุทธิ 10,499 ล้านบาท เนื่องจากหลายประเทศมีการคลายล็อกดาวน์ เศรษฐกิจก็มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นหากเทียบกับครึ่งปีแรก โดยเฉพาะเศรษฐกิจภายในประเทศไทยที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว

นอกจากนี้คาดว่าราคาปิโตรเลียม และก๊าซธรรมชาติเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบจะเฉลี่ยในระดับ 40-45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่สเปรดราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยในระดับ 5-7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สเปรดราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยในระดับ 8-10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาผลิตโอเลฟินส์ เริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากผลิตภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียว เช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร และทางการแพทย์มีความต้องการใช้สูงขึ้น ยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มปตท. คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อผลประกอบการของปตท.ดีขึ้น ส่วนภาพรวมผลประกอบการทั้งปี 63 ของ ปตท. จะมีกำไรต่ำสุดเป็นประวัติการณ์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยในครึ่งปีหลัง63 ที่กล่าวมาข้างต้น

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาทิศทางเศรษฐกิจ การลงทุนก็ยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศเรื่องการเมือง การแพร่ระบาดรอบ 2 ของไวรัสโควิด-19 ว่าจะมีขึ้นหรือไม่ และปัจจัยต่างประเทศเรื่องสงครามการค้า และการก่อความวุ่นวาย ภัยธรรมชาติที่รุนแรงที่อยู่ภายใต้ควบคุมของมนุษย์ที่อาจจะเกิดขึ้น แต่โดยส่วนตัวมองว่าเศรษฐกิจจากนี้ไปจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น หากไม่มีปัจจัยอะไรมากระทบหนัก

ส่วนแผนลงทุนปีนี้ยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผนเช่นเดิมในโครงการใหญ่ โดยงบลงทุน 50,000 กว่าล้านบาทครึ่งปีแรก ดำเนินการลงทุนไปแล้ว 50% เหลืออีก 50% ครึ่งปีหลังเดินลงทุนเต็มที่ ไม่ชะลอการลงทุน ส่วนจะมีการออกหุ้นกู้อีกหรือไม่นั้นในครึ่งปีหลัง ยังไม่มีความจำเป็นออกหุ้นกู้อีก เนื่องจากครึ่งปีแรกมีเงินสดในมือกว่า 50,000 ล้านบาท ออกหุ้นกู้ในครึ่งปีแรก 63 จำนวน 57,000 ล้านบาท ดึงนั้นในครึ่งปีหลัง จึงยังไม่มีแผนออกหุ้นกู้อีก ยกเว้นมีการลงทุนโครงการใหญ่

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews