นิวส์ คอนเน็คท์ – PTTEP มั่นใจครึ่งปีหลัง 63 ผลงานดีกว่าครึ่งปีแรก เติบโตตามทิศทางราคาน้ำมัน เตรียมปิดดีลซื้อกิจการ 1 โครงการ หวังได้ข้อสรุปเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณเดือน ก.ย.63 เล็งขายโครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. (PTTEP) เปิดเผยว่า มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 63 มีแนวโน้มจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก 63 ที่มีรายได้รวม 87,549 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 12,935 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก และในช่วงครึ่งปีหลังจะไม่มีการตั้งด้อยค่าของสินทรัพย์

ขณะเดียวกัน ในช่วงครึ่งปีหลัง 63 คาดว่าจะสามารถปิดดีลซื้อกิจการ (M&A) แหล่งปิโตรเลียมเพิ่มอย่างน้อย 1 แหล่ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะเป็นแหล่งในประเทศใด จากที่มีเป้าหมายการซื้อกิจการปิโตรเลียมในประเทศเมียนมา มาเลเซีย โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)

ส่วนข้อตกลงการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณ กับบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานเดิมนั้นในเร็วๆ นี้จะมีการเจรจาหาข้อสรุปกับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติรอบที่ 3 คาดว่าจะได้ข้อสรุปเดือนกันยายน 63 ซึ่งเป็นข้อตกลงเข้าพื้นที่ระยะที่ 2 เช่น การติดตั้งแท่นหลุมผลิต การเจาะหลุมผลิตบนแท่นใหม่ และการเชื่อมต่อท่อเข้ากับแท่นหลุมผลิต โดยทาง PTTEP ก็ได้เตรียมความพร้อมของแท่นไว้หมดแล้ว พร้อมที่จะเข้าพื้นที่เพื่อให้สามารถเตรียมการอย่างน้อย 3 ปี ก่อนสัญญาสัมทานเดิมจะหมดลงในปี 65

นางชนมาศ ศาสนนันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน PTTEP กล่าวในการ Opportunity Day ว่า โครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ ในประเทศแคนาดา จะมีการพิจารณาขายหรือไม่ต้องพิจารณาจากทิศทางราคาน้ำมัน ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 80-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลบริษัทก็พร้อมที่จะลงทุนพัฒนาต่อไป แต่หากมีผู้สนใจต้องการเข้ามาลงทุนและให้ในราคาที่เหมาะสมบริษัทก็มองโอกาสในการขายโครงการที่ออกไป อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทประเมินทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยในระดับ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3-4/63 คาดว่าปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในโครงการซาบาห์ เอช ที่ประเทศมาเลเซีย โดยจะสามารถเพื่มกำลังการผลิตให้กับบริษัทอีก 7,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้พลังงานในประเทศ PTTEP จึงได้ปรับลดคาดการณ์ปริมาณการขายในปี 63 เป็น 355,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และจะพยายามรักษาระดับต้นทุนต่อหน่วยที่ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews