นิวส์ คอนเน็คท์ - EA ยังมั่นใจรายรวมปีนี้โตดีกว่าปี 62 แม้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ทำให้ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าไม่ทัน แต่ยังได้รับปัจจัยหนุนจ่ายไฟฟ้าพลังงานลมเต็มปี ขณะปี 64 การันตีเติบโตสดใสตามทิศทางขยายการลงทุน

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2563 นางออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทางเลือก เปิดเผยว่า ในปี 63 บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้รวมจะยังเติบโตดีกว่าปี 62 ที่มีรายได้ 14,954 ล้านบาท แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายใต้แบรนด์ “MINE SPA1” จำนวน 5,000 คันไม่ได้ตามเป้า โดยรถยนต์ไฟฟ้าคาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบได้ปลายปีนี้ 180 คันที่เหลือทยอยส่งมอบครบทั้งหมดในปี 64

อย่างไรก็ตามบริษัทยังได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้เต็มปีจากการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเต็มปีของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมาน ขนาด 260 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 664 เมกะวัตต์ พร้อมกันนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์สารเปลี่ยนสถานะหรือ PCM (Phase Change Material) ที่จะเริ่มผลิตเต็มกำลังการผลิตได้ในช่วงไตรมาส 3/63 และส่งให้กับตัวแทนจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด

ส่วนการผลิตเรือไฟฟ้า (E-Ferry) ยังคงเป้าหมาย 20 ลำในปีนี้ ขณะที่ความคืบหน้าโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องจักรคาดว่าในเดือน ธ.ค. 63 จะสามารถทดลองเดินเครื่องได้แล้วเริ่มผลิตจริงได้ต้นปี 64

สำหรับในภาพรวมธุรกิจทาง EA พยายามสร้างการเติบโตในธุรกิจใหม่ และการมองหาโอกาสพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องรองรับการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะขยายลงทุนในกลุ่มรถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้าเพื่อขยายตลาดกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต่อยอดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก

อย่างไรก็ตามธุรกิจผลิตไฟฟ้ายังคงเป็นธุรกิจหลักของ EA อยู่ ล่าสุดได้ร่วมลงนามกับพันธมิตร และรัฐบาลสปป.ลาว ในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติของ สปป.ลาว จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ (1) Saravan Downsteam Hydropower Project และ (2) Phamong Hydropower Project รวมกำลังการผลิตราว 3,000 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ในปี 64 จึงมั่นใจว่าจะเป็นปีที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการขยายการลงทุนในปีนี้ทั้ง แบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้า และ ธุรกิจ PCM

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews