Phones





“หยวนต้า”จัดทัพหวังขึ้นแท่นTop3

2019-08-20 18:57:46 287




นิวส์ คอนเน็คท์ – บล.หยวนต้า ดีเดย์เปิดตัวทีมผู้บริหารใหม่ เดินหน้าธุรกิจโบรกเกอร์เต็มสูบ วางเป้าหมายมาร์เก็ตแชร์ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ไว้ที่ 4% ภายในกลางปี 63 ก่อนขึ้นสู่ Top 3 ภายใน 2-3 ปีด้วยมาร์เก็ตแชร์ระดับ 5% ด้านงานวาณิชธนกิจกุมดีลไอพีโอไว้แล้ว 6 ดีล คาดสิ้นปีนี้มีไม่ไม่ต่ำกว่า 10 ดีล


นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการเปิดตัวทีมผู้บริหารระดับสูงใหม่ 4 ตำแหน่ง พร้อมทั้งมีการปรับโมเดลธุรกิจเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายในการติด Top 3 ของธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ โดยได้มีการแต่งตั้งนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ เข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท รวมทั้งแต่งทีมผู้บริหารที่จะเข้ามาดูแลสายงานธุรกิจรายย่อย และสายงานวาณิชธนกิจอกี 3 ตำแหน่ง


โดยการจัดทัพใหม่ครั้งนี้เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในธุรกิจการเงินการลงทุนของไทยใน 3 ด้านหลักคือ ผลิตภัณฑ์การเงินที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้นดังนั้นผู้ที่จะทำหน้าที่ให้บริการกับลูกค้าต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในผลิตภัณฑ์นั้นๆเป็นอย่างดีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบโดยการเข้ามาของ Fintech ต่างๆเช่น Blockchain, Cryptocurrency, Big Data Analytics, Machine Learning, AI และอื่นๆ ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในธุรกิจการเงินและการลงทุนสามารถทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสเข้าถึงการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประการสุดท้ายคือนักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจในด้านการลงทุนมากขึ้นแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น


ทั้งนี้ หลังจากการปรับทีมผู้บริหารและโมเดลธุรกิจใหม่ครั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายมาร์เก็ตแชร์ของธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์จะเพิ่มขึ้นขึ้นเป็นมากกว่า 4% ภายในช่วงกลางปี 63 จากปัจจุบันที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ประมาณ 3% และเป็น Top 10 ของอุตสาหกรรม รวมทั้งได้ตั้งเป้าหมายภายใน 2-3 ปีข้างหน้าจะสามารถผลักดันมาร์เก็ตแชร์ขึ้นสู่ Top 3 ของอุตสาหกรรม ซึ่งจะมีมาร์เก็ตแชร์ไม่น้อยกว่า 5%


อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ในปัจจุบันมีการแข่งขันที่รุนแรง และอาจสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทได้น้อยลงนับตั้งแต่มีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่น บริษัทจึงวางเป้าหมายในการเพิ่มช่องทางรายได้ให้มีความหลากหลายมากขึ้นจากปัจจุบันที่รายได้หลักจะมาจากธุรกิจรายย่อยเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันที่บริษัทมีแผนการขยายฐานลูกค้ารายย่อยมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนประเภทอื่นๆของบริษัทให้แก่ลูกค้าได้กว้างขึ้น รวมถึงมีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนลูกค้าสถาบันให้มากขึ้นด้วย


นอกจากนี้ บริษัทเตรียมพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการและสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้ใจต่อบริษัทในระยะยาว ในส่วนของทีมงานที่จะเข้ามาดูแลลูกค้านั้น จะเน้นการพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยปัจจุบันมีทีมเจ้าหน้าที่ปรึกษาการลงทุน (IC) จำนวน 450 ราย


สำหรับงานด้านวาณิชธนกิจนั้น ปัจจุบันบริษัทมีดีลที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) หุ้นไอพีโอจำนวน 6 ดีล และอยู่ระหว่างเจรจาอีกหลายดีล โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 62 จะมีงานไอพีโอในมือไม่ต่ำกว่า 10 ดีล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีกำไรสุทธิตั้งแต่ 100 ล้านบาทต่อปีขึ้นไป ส่วนแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) นั้น ยอมรับว่าคงต้องมีการเลื่อนไปจากกำหนดเดิมที่คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในปี 63 เนื่องจากภาวะตลาดในขณะนี้ยังไม่เอื้ออำนวย แต่ยังยืนยันว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ถือเป็นสิ่งจำเป็น และเป็นเป้าหมายสำคัญของบริษัท