Phones





PTG แกร่ง!ทริสฯคงอันดับBBB+ แนวโน้มเครดิต“Stable”

2020-08-26 17:17:58 312




นิวส์ คอนเน็คท์ - ทริสเรทติ้งจัดอันดับ “พีทีจี เอ็นเนอยี” ที่ BBB+ และให้แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” ตอกย้ำศักยภาพการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน


นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทอยู่ที่ระดับ BBB+ พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 1 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB+” ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้ และ/หรือไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระ



โดยอันดับเครดิต สะท้อนถึงสถานะทางการตลาดของบริษัทที่แข็งแกร่งขึ้นในธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน ตลอดจนเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันที่ครอบคลุม ซึ่งอันดับเครดิตถูกลดทอนโดยระดับหนี้สินที่สูง รวมถึงความอ่อนไหวต่อการแทรกแซงราคาน้ำมันจากภาครัฐ และการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การบริโภคน้ำมันภายในประเทศลดลง เกิดการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งในไตรมาส 2 บริษัทมียอดการจำหน่ายน้ำมันลดลง 1% จากไตรมาสก่อน มีรายได้จากการดำเนินงาน 2.2 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 513 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท ด้วยปัจจัยดังกล่าว บริษัทจึงปรับลดเป้าหมายของการขยายสถานีบริการน้ำมันลงเหลือไม่เกิน 100 สถานีในปี 2563 พร้อมปรับลดเงินลงทุนลงจาก 4.5 พันล้านบาท เหลือ 3 พันล้านบาท



ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ส่งผลให้การบริโภคน้ำมันภายในประเทศลดลง เกิดการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งในไตรมาส 2 บริษัท มียอดการจำหน่ายน้ำมันลดลง 1% จากไตรมาสก่อน มีรายได้จากการดำเนินงาน 2.2 หมื่นล้านบาทและ และกำไรสุทธิอยู่ที่ 513 ล้านบาท ขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท ด้วยปัจจัยดังกล่าว บริษัทจึงปรับลดเป้าหมายของการขยายสถานีบริการน้ำมันและธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่น้ำมันลง โดยปรับการขยายสถานีบริการน้ำมันใหม่ลง เหลือไม่เกิน 100 สถานีในปี 2563 พร้อมปรับลดเงินลงทุนลงจาก 4.5 พันล้านบาท เหลือ 3 พันล้านบาท



โดย ทริสเรทติ้ง ยังคาดว่าปริมาณความต้องการน้ำมันจะกลับมาสูงขึ้นช่วงครึ่งหลังของปี 2563 หลังการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ แต่ปริมาณความต้องการใข้น้ำมันอาจจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่เนื่องจากยังมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดการระบาดของโรคโควิด 19 ระลอกที่สอง ในส่วนของแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้ง ว่าบริษัทจะสามารถดำรงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเอาไว้ได้ และบริษัทจะมีความระมัดระวังในการขยายธุรกิจ ทริสเรทติ้งคาดว่าระดับหนี้สินของบริษัทจะยังคงอยู่ในช่วงที่ได้คาดการณ์ไว้


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews