นิวส์ คอนเน็คท์ – BGRIM ถึงเวลาอัพกำลังการผลิตเป็น 7,200 เมกะวัตต์ในปี 68 จากเป้า 5,000 เมกะวัตต์ในปี 65 ลุ้นปิดดีลปีนี้ 700 เมกะวัตต์ทั้งในไทยและต่างประเทศ มั่นใจรายได้เติบโตตามเป้า 10-15%

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อขยายลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในไทยและต่างประเทศหลายโครงการ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าแก๊สทูเพาเวอร์ หรือ LNG to Power ในประเทศเวียดนามราว 2,000-3,000 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ได้ต้นปี 64 คาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับ 12% ส่วนพลังงานลมเวียดนาม 100-200 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในการลงทุนภายในปี 63

ขณะที่โครงการพลังงานลมที่ประเทศเกาหลีใต้ 130-150 เมกะวัตต์ ได้ใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) แล้ว รอเพียงใบอนุญาตอีกใบ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเริ่มดำเนินการพัฒนาแล้ว 36 เมกะวัตต์ และโครงการที่จะเข้าซื้อกิจการ (M&A) รวมกำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ โดยเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม หรือ SPP ในประเทศไทยประมาณ 4 โครงการ และเป็นโรงไฟฟ้าแก๊สธรรมชาติในประเทศมาเลเซีย 1 โครงการ โดยการซื้อกิจการคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้อย่างน้อย 1 โครงการ

โดยในโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาทั้งหมดนี้ จะช่วยสนับสนุนให้กำลังการผลิตไฟฟ้าติดรวมที่มีอยู่ในมือเพิ่มเป็น 7,200 เมกะวัตต์ได้ภายในปี 68 จากปัจจุบันมีกำลังผลิตในมือ 3,682 เมกะวัตต์ และจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตเกินเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ 5,000 เมกะวัตต์ภายในปี 65 ซึ่งกำลังการผลิตที่เติบโตเพื่อขึ้นเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคตอันใกล้

สำหรับการลงทุนเพื่อผลักดันให้ได้ตามเป้าหมาย 7,200 เมกะวัตต์นั้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 180,000 ล้านบาท และยืนยันว่าไม่จำเป็นจะต้องเพิ่มทุน เนื่องจากมีเงินในมือราว 19,000 ล้านบาท และมีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 9,000 ล้านบาท ประกอบกับมีกระแสเงินจากดำเนินงานที่เข้ามาในทุกปีอีก นอกจากนี้ ยังมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 1 เท่า มีศักยภาพในการกู้เงิน

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 63 คาดว่าจะเติบโตดีขึ้นกว่าครึ่งแรก เนื่องจากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวลดลง มีการเซ็นสัญญาขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมเข้ามาเพิ่มอีก 40 เมกะวัตต์ จากที่ลงนามในสัญญาช่วงครึ่งปีแรกราว 15 เมกะวัตต์ ประกอบกับ บริษัทได้ร่วมกับบริษัท ซีเมนส์ อินดัสเทรียล เทอร์โบแมซีเนอรี จำกัด ในการปรับปรุงโรงไฟฟ้าให้มีสมรรถนะความพร้อม (Availability) ประสิทธิภาพ (Efficiency) ที่สูงขึ้น ช่วยลดการแก๊สในการผลิตไฟฟ้า

ส่วนภาพรวมรายได้ปี 63 มั่นใจว่าจะเติบโตตามเป้าหมาย 10-15% เนื่องจากรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มที่เวียดนาม 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 677 เมกะวัตต์เต็มปี และได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าอ่างทองพาวเวอร์ ขนาดกำลังการผลิต 123 เมกะวัตต์ รวมทั้งยังรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ในประเทศกัมพูชา 39 เมกะวัตต์ ที่จะ COD ในเดือนต.ค.ปีนี้

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews