นิวส์ คอนเน็คท์ – PTT รุกขายก๊าซประเทศกลุ่ม CLMV จีนตอนใต้ คาดมีความต้องการ 1 ล้านตันต่อปี พร้อมเริ่มส่งออกทำตลาดเชิงพาณิชย์ปลายปี 63 ในระดับ 65,000 ตัน หลังได้ทดลองตลาดแล้วช่วงไตรมาส3/63 ขณะเดียวกัน ปตท.ยังให้ความสำคัญกับตลาดก๊าซฯในประเทศ รุกขยายตลาดกลุ่มอุตสาหกรรมนอกแนวท่อ

เมื่อเร็วๆ นี้ นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) หรือเทรดเดอร์ LNG ในภูมิภาคอาเซียน และจีนตอนใต้นั้น เมื่อช่วงต้นปี 63 ที่ผ่านมา ปตท.ได้ทดลองส่งออกไปยังจีนตอนใต้บ้างแล้ว แต่ภายหลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 คลี่คลายคาดว่าจะกลับมาเริ่มดำเนินการส่งออกทำตลาดเชิงพาณิชย์ได้ใหม่ในช่วงไตรมาส 3/63 หรือปลายปี 63 คาดว่าจะได้เห็นการส่งออกในระดับ 65,000 ตัน

ทั้งนี้การส่งออก LNG นั้นเป็นการยกระดับโครงการ Regional LNG HUB ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายก๊าซฯ หรือ LNG HUB ของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในอนาคตหากจะให้ไทยสามารถแข่งขันกับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ที่มีความต้องการที่จะเป็นฮับทางด้านนี้เช่นกัน ก็อาจจะต้องรอนโยบายสนับสนุนพิเศษจากภาครัฐเพิ่มเติมด้วย

อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดกลุ่มประเทศ CLMV รวมถึง ฟิลิปปินส์ และจีนตอนใต้ คาดว่าจะมีความต้องการใช้ LNG มากกว่า 1 ล้านตันต่อปี โดย ปตท.วางเป้าที่จะทำการตลาดในระดับดังกล่าว โดยหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 คลี่คลายคาดว่าตลาดก๊าซฯในภูมิภาคจะกลับมาปกติในช่วงกลางปี 64 หรือในช่วงปลายปี 64

นอกจากนี้ปตท.ก็ยังให้ความสำคัญกับตลาดก๊าซฯในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าอุตสาหกรรมนอกแนวท่อ ซึ่งเป็นการขนส่งทางรถยนต์ให้กับลูกค้าที่อยู่นอกแนวท่อ รวมถึงจะขยายกลุ่มลูค้านิคมอุตสาหกรรมที่ซื้อก๊าซฯ ผ่านระบบท่อให้มากขึ้น มองว่าในอนาคตความต้องการใช้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากราคาก๊าซฯ ถูกลง

พร้อมกันนี้ ปตท.ยังได้ศึกษาขยายตลาดในประเทศเมียนมา โดยการเปิดตลาดก๊าซฯ ภายในนิคมอุตสาหกรรมที่เมียนมา ซึ่งปัจจุบันปตท.ได้เข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในนิคมฯพื้นที่ย่างกุ้งไว้ 2-3 แห่ง พื่อป้อนก๊าซฯ รองรับการใช้สำหรับภาคอุตสาหกรรมในนิคมฯ ซึ่งอาจจะเป็นลักษณะส่งผ่านทางท่อ หรือในรูปแบบของ LNG

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews