Phones





AOTแจงย้ายจุดจอดบัสขึ้นประตู8ช่วยจราจรคล่องตัว

2020-09-01 17:47:30 529




นิวส์ คอนเน็คท์ – AOT แจงย้ายจุดจอดรถโดยสารสาธารณะ A1-A4 รับส่งผู้โดยสารไปยังประตู 8 เพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง แก้ปัญหาจราจรติดขัด ขณะผู้โดยสารเริ่มฟื้นตัว 45,000 คนต่อวัน คาดทั้งปีปิด 15 ล้านคน ชี้มาตรการคัดกรองพร้อมรับนักท่องเที่ยวหากรัฐมีนโยบายเปิดต่างชาติเข้ามาเที่ยว


เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT (ทอท.) เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานดอนเมืองได้ดำเนินการย้ายจุดจอดรถโดยสารสาธารณะ A1-A4 ไปใช้จุดจอดรถใหม่เพื่อให้ผู้โดยสารรอขึ้นรถที่ประตู 8 และอาคาร Service Hall จากเดิมที่มีจุดรอรถโดยสารบริเวณประตู 14 ขณะนี้ ทอท.ได้จัดทำป้ายบอกทางตั้งแต่จุดรับสัมภาระและติดป้ายประชาสัมพันธ์ภายในอาคาเพื่อแจ้งให้ผู้โดยสารทราบถึงจุดรอรถโดยสารใหม่ ทั้งยังจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณประตู 8 อีกด้วย เพื่อคอยช่วยเหลือผู้โดยสารและแจ้งผู้เดินทางเมื่อรถโดยสารมาถึงยังชานชาลา


ส่วนด้านเหตุผลในการย้ายจุดจอดรถโดยสารครั้งนี้คือการแก้ปัญหาจราจรภายในท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งมีข้อจำกัดทางกายภาพ คือ ถนนคับแคบและมีจุดคอขวดบริเวณจุดรอรถโดยสารเดิม (ประตู 14) ส่งผลให้รถโดยสารเคลื่อนตัวได้ช้าประกอบกับเคลื่อนตัวได้ไม่สะดวก เนื่องจากมีช่องจราจรเพียง 2 ช่องทาง ต้องแย่งกับรถยนต์ส่วนบุคคลและรถแท็กซี่อีกจำนวนมาก ปัจจุบันสัดส่วนยานพาหนะภายในท่าอากาศยานดอนเมืองได้แก่ รถแท็กซี่ 50% รถโดยสาร 30% และรถส่วนบุคคล 20%


ดังนั้นข้อดีของจุดจอดรถแห่งใหม่คือมีจุดพักคอยขนาดใหญ่ให้ผู้โดยสารบริเวณประตู 8 นักท่องเที่ยวสามารถนั่งข้างในอาคารเพื่อรอรถโดยสาร พร้อมมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและแจ้งรายละเอียดรถที่จะเข้าสู่ชานชาลา ขณะที่จุดจอดพักคอยริมถนนกว้างขวาง รองรับสัมภาระขนาดใหญ่ได้จำนวนมาก ไม่ต้องไปยืนเบียดกันข้างนอกเหมือนจุดจอดรถโดยสารเดิม ส่งผลให้ระยะเวลาการรอรถโดยสารลดลง 5-10 นาทีต่อเที่ยว ซึ่งยังเป็นการแก้ปัญหาการจราจรแออัดภายในท่าอากาศยานดอนเมืองอีกด้วย


ทั้งนี้ภายหลังจากมีผู้โดยสารมาใช้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเพิ่มมากขึ้นหลังสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด – 19 คลี่คลาย ทางทอท.ได้เพิ่มจุดเข้า ออก เพื่อความสะดวก สบายในการเดินทาง โดยอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ชั้น 1 ได้เพิ่มช่องทางเข้าที่ประตู 10 กับประตู 15 ออกประตู 10 กับ 14 ส่วนใช้ 3 เข้าประตู 10 กับ 14 และทางออกประตู 9 จากเดิมมีช่องทางเข้าออกเพียงประตู 14 กับ 15 ส่วนอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ได้มีการเปิดประตูเข้า ออกที่ประตู 8 กับ 1


ส่วนจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้ท่าอากาศยานดอนเมืองปัจจุบันมีผู้โดยสารกลับมาใช้เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 45,000 คนต่อวัน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารภายในประเทศ จากเดิมที่เคยมีผู้โดยสารรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศราว 100,000 คนต่อวัน และมีเที่ยวบินราว 210-220 เที่ยวบินต่อวัน จากเดิมอยู่ในระดับ 780 เที่ยวบินต่อวัน อย่างไรก็ตามปัจจุบันก็ได้มีผู้ประกอบการบินได้มาขอเพิ่มเที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมปีงบประมาณ (1 ต.ค.62 ถึง 30 ก.ย.63) คาดว่าจะมีผู้โดยสารราว 15 ล้านคน จากปกติผู้โดยสารจะอยู่ในระดับ 41 ล้านคนต่อปี


หากรัฐบาลมีมาตรการเปิดรับผู้โดยสารระหว่างประเทศเพื่อรองรับมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นทอท. พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น รูปแบบจับคู่เที่ยว (Travel Bubble) ปัจจุบันมีศักยภาพรองรับวันละ 1,600-2,000 คน หรือเว้นระยะห่างราว 3-4 ชั่วโมงต่อเที่ยวบิน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับกระทรวงสาธารณะสุขในการดูแลควบคุมโรคและกำหนดมาตรการร่วมกัน


อย่างไรก็ตาม ทอท.มีความมั่นใจในมาตรการคัดกรองของท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเตรียมพื้นที่บริเวณอาคารผู้โดยสารหลังเก่า (Pier 6) รองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประทเศที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีห้องอุปกรณ์เชื้อโรคขั้นสูง (Lab) จำนวน 2 เครื่อง ใช้เวลาตรวจราว 3-4 ชั่วโมงต่อผู้โดยสาร 200 คน หรือคิดเป็นเวลา 3-4 ชม.ต่อเที่ยวบิน ทั้งนี้ปัจจุบันท่าอากาศยานดอนเมืองรองรับนักเดินทางต่างชาติอยู่แล้ว เพียงแค่อยู่ในรูปแบบเที่ยวบินส่วนตัว ไพรเวทเจ็ทและชาร์เตอไฟล์ท โดยมีการประสานงานกับกระทรวงสาธารณะสุขอย่างใกล้ชิด


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews