นิวส์ คอนเน็คท์ – GULF มั่นใจโครงการพลังงานน้ำในลาว 3 โครงการรวมกำลังการผลิต 2,366 เมกะวัตต์ ได้ข้อสรุปค่าไฟฟ้าปลายปีนี้ โดยถือหุ้นในสัดส่วน 30-35% ต่อโครงการ ขณะที่รายได้การันตีเติบโตตามเป้า 15% ขณะที่ปี 70 คาดมีรายได้ 1.5-1.7 แสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศสปป.ลาว จำนวน 3 โครงการรวมกำลังการผลิต 2,366 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการ Pak Beng 912 เมกะวัตต์ Pak Lay 770 เมกะวัตต์ และโครงการ Sanakham 684 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาค่าไฟฟ้าคาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายปีนี้

โดยทั้ง 3 โครงการนี้บริษัทฯ ร่วมลงทุนกับพันธมิตรในประเทศจีน ทั้งบริษัท ต้าถัง และบริษัท พาวเวอร์ไชน่า จำกัด ในสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 30-35% ต่อโครงการ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 3.3 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเมกะวัตต์ และจะทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 72-73

อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน GULF มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นราว 8,098 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ได้ครบทั้งหมดใน 70 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาโรงไฟฟ้า IPP จำนวน 2 โรงรวมกำลังการผลิต 5,000 เมกะวัตต์ อาทิ โรงไฟฟ้าIPP GSRC จ.ชลบุรี กำลังผลิตรวม2,500เมกะวัตต์ทยอย COD ปี 64-65 โรงไฟฟ้า IPP GPD จ.ระยอง กำลังการผลิตรวมราว 2,500 เมกะวัตต์ จะทยอย COD ในปี 66 และ 67 ส่วนโรงไฟฟ้าหินกอง จ.ราชบุรี ขนาด 1,400 เมกะวัตต์ จะเดินเครื่องผลิตในปี67 และ 68 ขณะที่โรงไฟฟ้างไฟฟ้าบูรพาพาวเวอร์ ซึ่งเป็น IPP ขนาด 540 เมกะวัตต์เริ่ม COD ในปี 70

ทั้งนี้จากกำลังการผลิตที่ทยอย COD เพิ่มเข้ามาคาดว่าจะสามารถสร้างผลการเติบโตให้กับบริษัทฯ ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 70 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมราว 1.5-1.7 แสนล้านบาท ขณะที่ในปี 63 มั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ในระดับ 35,000 ล้านบาท หรือ โต 15%

สำหรับเงินลงทุนในช่วง 5 ปี (63-68) นั้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1 แสนล้านบาท โดยในปีนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 45,000 ล้านบาท ส่วนระหว่างปี 64-68 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 55,000 ล้านบาทในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้า IPP 5,000 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าหินกอง 1,400 เมกะวัตต์ รองรับการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเยอรมนีขนาด 464.8 เมกะวัตต์ และลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมในในประเทศเวียดนาม

รวมถึงใช้ในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นโครงการท่าเรือแหลมฉะบังเฟส3 ท่าเรือมาบตาพุต เฟส3 การลงทุนในโครงการติดตั้งระบบบริการจัดเก็บค่าผ่านทางและบำรุงรักษา (O&M) โครงการมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา M6 ระยะทาง 196 กิโลเมตร (กม.) และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี M9 ระยะทาง 96 กม.

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews