Phones





SK ก.ล.ต.ไฟเขียวขายIPO 115.35 ล้านหุ้น

2020-09-09 12:15:30 325




นิวส์ คอนเน็คท์ - SK ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง เสนอขาย IPO จำนวน 115.35 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาท เร็วๆนี้ ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หวังระดมทุนเสริมศักยภาพเครื่องจักร ปูทางประมูลงานภาครัฐ ต่อยอดธุรกิจในอนาคต



เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ศิรกร จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อย่อ “SK” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 115.35 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 25.08 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และคาดว่าจะนำเสนอขายหลักทรัพย์ พร้อมเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ในเร็วๆนี้


ทั้งนี้ปัจจุบัน “SK” มีทุนจดทะเบียนจำนวน 230 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญที่เสนอขายจำนวน 115.35 ล้านหุ้น และมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 172.33 ล้านบาท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO บริษัทฯจะมีทุนชำระแล้ว เพิ่มขึ้นเป็น 230 ล้านบาท


สำหรับผลการดำเนินงานของ “SK” หากพิจารณาจากผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี และไตรมาส 2/63 บริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 60 มีรายได้รวม 521.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 35.35 ล้านบาท ในปี 61บริษัทมีรายได้รวม 637.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 28.81 ล้านบาท ปี 62 บริษัทมีรายได้รวม 677.07 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 50.26 ล้านบาท และไตรมาส 2/63 บริษัทมีรายได้รวม 274.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 9.29 ล้านบาท นอกจากนี้ ณ สิ้นสุดไตรมาส 2/63 บริษัทฯยังมีงานรับเหมาก่อสร้าง ที่รอการส่งมอบอีกกว่า 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่างานในมือ (Back log) อีกกว่า 157.22 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้เกือบทั้งหมดภายในปีนี้



ด้านนายอาณัติ ปิ่นรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศิรกร จำกัด (มหาชน) หรือ SK กล่าวว่า กลุ่มบริษัทมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ในการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง และให้บริการรับเหมาก่อสร้างสายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้าและงานรับเหมาก่อสร้างโยธาโดยบริษัทมีความแข็งแกร่ง คือ การมีโรงงานผลิตและจัดจำหน่ายคอนกรีตอัดแรง 6 แห่ง อาทิ จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดชลบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดลำปาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดสงขลา ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ได้เปรียบเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจประเภทเดียวกัน ซึ่งแสดงให้เห็นเห็นถึงศักยภาพในการผลิตและจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

ส่วนธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างสายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้านั้น บริษัทสามารถเข้าร่วมประมูลงานสายส่ง สูงสุดขนาด 115 KV ของ กฟภ.และ กฟผ. ประกอบกับปัจจุบัน บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการค้าร่วม (Consortium) กับบริษัท คินเด้น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ในการรับเหมาระบบสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 KV ของ กฟผ. ขณะที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโยธา บริษัทมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ในการรับเหมาก่อสร้าง อาทิ งานก่อสร้างอาคาร Workshop อาคารปฏิบัติการเคมี โรงไฟฟ้าแม่เมาะ เป็นต้น


สำหรับการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ เพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างตามแผนยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาประเทศ โดยบริษัทมีแผนจะเข้าประมูลงานรับเหมาก่อสร้างสายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้าและงานรับเหมาก่อสร้างโยธาทั้งในส่วนของภาครัฐ และเอกชน เพิ่มขึ้น ซึ่งหลังจากโครงการ Consortium งานสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 KV ปัจจุบันเสร็จสิ้น บริษัทจะสามารถรับงานโครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 KV ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ด้วยตนเอง

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนเครื่องจักร อุปกรณ์ และรถขนส่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อรองรับโอกาสในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต และเพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีต การขนส่งสินค้าให้กับลูกค้า พร้อมกันนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายช่องทางการลงทุน เพื่อเพิ่มศักยภาพและต่อยอดความแข็งแกร่งทางธุรกิจในอนาคต


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews