Phones





รฟท.ทุ่ม3.47หมื่นล. ลุยจัดซื้อรถโดยสาร-แคร่ขนสินค้า

2020-09-18 18:10:06 548




นิวส์ คอนเน็คท์ - รฟท. ทุ่มงบ 3.47 หมื่นล้านบาท ลุยจัดซื้อรถโดยสาร-แคร่ขนสินค้า รองรับทางคู่เฟส 1 เสร็จปี 65 พร้อมนำร่องบริการขนเกลือ 4 แสนตัน เล็งร่วมมือไปรษณีย์ไทย ขนส่งพัสดุ ขณะที่โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใต้ช้ากว่าแผน เหตุต้องปรับแบบหนีระเบิด


เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยระหว่างนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม - ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร (กม.) 5 สัญญา วงเงิน 3.39 หมื่นล้านบาท ว่า ภาพรวมการก่อสร้างคืบหน้า 67.05% ล่าช้ากว่าแผน 7.89% เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาการก่อสร้างบางพื้นต้องมีการปรับแบบก่อสร้างใหม่ เช่น ที่ จ.ราชบุรี มีการพบระเบิดอยู่ในแม่น้ำแม่กลอง บริเวณจุดก่อสร้างทางรถไฟ จึงต้องปรับแบบการก่อสร้างช่วงนี้ใหม่ ซึ่งหากจะกู้ระเบิดต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี ขณะที่บางพื้นที่ก็ติดปัญหาผู้บุกรุก โดยเป็นปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนาน รวมทั้งยังมีปัญหาเรื่องการแก้ปัญหา 10 จุดตัดสำคัญใน จ.เพชรบุรี เพื่อลดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันปัญหาเหล่านี้สามารถเคลียร์ได้หมดแล้ว และได้เร่งดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ที่ล่าช้าให้เป็นไปตามแผนโดยเร็วที่สุด


ทั้งนี้ ในฐานะที่เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท.คนใหม่ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่มา 4 เดือนแล้ว ก็มองเห็นปัญหาของการรถไฟที่ชัดเจนมากขึ้น ดังนั้น จึงต้องเร่งขบวนการแผนฟื้นฟูกิจการ โดยวางมาตรการไว้ 3 กลยุทธ์ ประกอบด้วย กลยุทธ์ที่ 1.การปรับโครงสร้างขบวนการทำงานใหม่ ซึ่งอาจจะต้องประยุกต์ขบวนการทำงานของภาคเอกชนมาใช้ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและรวดเร็ว โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างที่ต้องผ่านหลายขั้นตอนที่ทำให้เกิดความล่าช้ามาโดยตลอด เรื่องนี้ต้องเร่งแก้ไข เพราะขบวนการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องมือเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างรายได้ เช่น การจัดซื้อหัวรถจักรใหม่ทดแทนของเดิมเสริมศักยภาพในการขนส่ง กลยุทธ์ที่ 2.การบริหารจัดการบุคลากรต้องปรับเปลี่ยนขบวนการทำงานใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและในอนาคต 3.เร่งหารายได้ให้มากขึ้นโดยกระจายธุรกิจไปยังการขนส่งสินค้าและพัสดุมากขึ้น เนื่องจากมีมาร์จิ้นดีกว่าการขนส่งผู้โดยสาร


โดย รฟท. มีแผนจะจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บทต.) หรือแคร่ จำนวน 965 คัน เพื่อนำมาให้บริการขนส่งสินค้าผ่านตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อขยายตลาดการขนส่งสินค้าเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุด รฟท. ได้หารือกับผู้ประกอบการเกลือ เพื่อทดลองขนส่งเกลือจากจังหวัดนครราชสีมา มายังนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยตั้งเป้าจะมีการขนส่งเกลือราว 4 แสนตันในปีแรก ขณะเดียวกัน รฟท.เตรียมลงนามความร่วมมือ (MOU) ด้านการขนส่งพัสดุกับไปรษณีย์ไทยในเร็วๆ นี้ ซึ่งการขนส่งประเภทนี้มีอัตรากำไรเบื้องต้น (Margin) มากกว่าการขนส่งสินค้า


ด้านนายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่า รฟท. กล่าวว่า โครงการจัดหาแคร่ขนสินค้าจำนวน 965 คันนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้ทันกับการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 7 เส้นทางที่จะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 65 เนื่องจากเมื่อทางคู่เสร็จจะมี สถานีเก็บและกระจายตู้สินค้า (CY) เพิ่มจำนวนมากตามแนวเส้นทางคู่ เพื่อรองรับการให่บริการขนส่งสินค้าทางคอนเทนเนอร์ ทั้งนี้โครงการจัดหาแคร่ขนสินค้าจะใช้เงินลงทุนในการจัดหาประมาณ 2-2.2 พันล้านบาท และได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมให้พิจารณาเห็นชอบแล้ว คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติภายในปีนี้ พร้อมเปิดประมูลภายในปี 64 และเริ่มทยอยรับมอบล็อตแรกในปี 65


นอกจากนี้ รฟท. ยังเตรียมจะผลักดันการจัดหาสี่สำคัญอีก 2โครงการ ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนารถไฟในช่วงระยะ 5 ปี (64-68) ได้แก่ โครงการจัดหารถดีเซลรางเชิงสังคม จำนวน 216 คัน วงเงิน 1.62 หมื่นล้านบาท และโครงการจัดหารถดีเซลรางโดยสารแบบชุด จำนวน 273 ตู้ วงเงิน 9.5 พันล้านบาท ถึง 1.63 หมื่นล้านบาท โดยในส่วนของรถดีเซลรางโดยสารแบบชุด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเสนอให้บอร์ด รฟท. พิจารณาอนุมัติ โดยทั้ง 3 โครงการข้างต้น รฟท. จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มรายได้


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews