ไต้หวัน มีการพัฒนาด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่อเนื่อง มีนวัตกรรมที่โดดเด่นหลายอย่าง เรียกได้ว่าเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอันดับต้นๆ ของโลกก็ว่าได้

สำหรับสถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม หรือ Industrial Technology Research Institute – ITRI ของไต้หวัน เป็นอีกหนึ่งองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหาผลกำไร ตั้งอยู่ ณ เมืองซินจู๋ มีจุดประสงค์เพื่อการค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนวัตกรรมโดยมีเป้าหมายการสร้างความยั่งยืนใน 3 ด้าน ประกอบด้วย Smart Living คือการสร้างเมืองอัจฉริยะ Quality Health การสร้างสุขภาพที่มีคุณภาพ Sustainable Environment การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

การนำไปสู่เป้าหมายสิ่งสำคัญของการพัฒนา คือ การนำเอาวัสดุจากพืชผลทางการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อยอดเป็นนวัตกรรมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยผลงานวิจัยของ ITRI เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไต้หวัน ซึ่งหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา หลายโครงการที่มีการต่อยอดในเชิงพาณิชย์ หรือได้ขายนวัตกรรมนั้นให้กับหน่วยงานเอกชน

ล่าสุด มีการขายเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนโพลิเมอร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าให้กับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน) หรือ EA นอกจากนี้ ทาง ITRI อยู่ระหว่างพิจารณาความร่วมมือกับบริษัทเอกชนของไทยในการนำเอาซังข้าวพัฒนาเป็นวัตถุดิบเส้นใยใบโอพลาสติก หรือ วัสดุทดแทนพลาสติก

นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมอื่นที่น่าสนใจ เช่น วัสดุผ้ารักษาโลก Supercritical Fluid Dyeing ผลิตด้วยขบวนการ The Supercritical CO2 Dyeing And The Synchronized Functional Dyeing Technology ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัท NIKE สามารถนำไปย้อมสีและตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยกระบวนการ CO2 ที่ไม่มีสารเคมีส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมตามนโยบายพลังงานสีเขียว (Green Policy) ของรัฐบาลไต้หวัน

การพัฒนาโดรนรุ่น Automatic Police UAV Patrol System เครื่องเลเซอร์ขจัดคราบ โซลาร์เซลล์สำหรับติดตั้งได้ภายในบ้านสามารถรับแสงเทียน และแสงสว่างภายในบ้านมาผลิตไฟฟ้าได้ คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 63 นอกจากนี้ยังมีการนำเอาวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร เช่น การนำเอาชานอ้อยมาพัฒนาเป็นไบโอพลาสติก พัฒนาป็นเส้นใยสำหรับผลิตเสื้อผ้า รองเท้า

พร้อมกันนี้ ITRI ยังได้คิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าใหม่ๆ รองรับการสนับสนุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนตามนโยบายของรัฐบาลไต้หวัน โดยมีเป้าหมายการใช้พลังงานทดแทน 31,161 เมกะวัตต์ หรือ 20% ภายในปี 2568 เช่น การส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมทั้งบนบกและในทะเล การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานคลื่นทะเล พร้อมกันนี้เพื่อลดการใช้พลังงาน ITRI ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับที่พักที่อยู่อาศัยประหบัดพลังงาน

สำหรับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศไต้หวัน เริ่มมีการพัฒนามา 10 ปีแล้ว ซึ่งรัฐบาลไต้หวันได้มีการสนับสนุนเงิน 30% ในการซื้อรถบัสไฟฟ้า โดยปัจจุบันมีรถบัสไฟฟ้าราว 300 คัน สนับสนุนเงิน 50% สำหรับซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจนทำให้ปัจจุบันมีการใช้รถมอเตอร์ไซค์ ไฟฟ้ากว่า 2 แสนคัน ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า (อีวีคาร์) ยังมีการใช้น้อย ไม่ถึง 500 คัน แต่มีแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 1,300 แห่ง

นอกจากนี้ ITRI ยังได้พาไปเยี่ยมชมโครงการอินโนเวชั่นฮับของ ASVDA ซึ่งเป็นพื้นที่ออฟฟิศให้สตาร์ทอัพมาเช่าพื้นที่คิดค้นพัฒนางานวิจัย โดยโครงการอินโนเวชั่นฮับเปิดตัวเฟสแรกเมื่อเดือน มิ.ย.2562 ปัจจุบันมีสตาร์ทอัพมาใช้บริการเต็มพื้นที่แล้วกว่า 42 ราย โดย ASVDA เก็บค่าเช่าเพียง 8,000 ดอลลาร์ไต้หวัน และที่นั่งละ 500 ดอลลาร์ไต้หวัน โดยโครงการนี้มีนวัตกรรมเด่น คือ ยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติที่ทดลองใช้ในอินโนเวชั่นฮับแล้ว ทั้งนี้ จากความสำเร็จในเฟสแรก ASVDA เตรียมขยายในเฟสที่ 2 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ปลายปี 2563 แล้วเสร็จปี 2565 คาดว่าใช้เงินลงทุนราว 120 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน

เพิ่งรู้เช่นกันว่า ไต้หวัน นี่คือเมืองนวัตกรรมอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้