Phones





WHAUP ครึ่งปีหลังโตแกร่ง ยอดขายน้ำพุ่ง-ผลิตไฟเพิ่ม

2020-10-06 14:11:01 323




นิวส์ คอนเน็คท์ - WHAUP ลั่น ผลงานครึ่งหลังพุ่งแรง ธุรกิจสาธารณูปโภค-พลังงานฟื้น ตามปัจจัยหนุนเพียบ มั่นใจทั้งปีขายน้ำได้ 120-130 ลูกบาศก์เมตร แถมมีกำลังผลิตไฟแตะ 592 MW

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ดร. นิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องด้วยธุรกิจสาธารณูปโภคและธุรกิจพลังงานฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามสถานการณ์ภัยแล้งและโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย


ทั้งนี้ ธุรกิจสาธารณูปโภคลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มปิโตรเคมีได้กลับมาดำเนินงานตามปกติ รวมถึงลูกค้าใหม่ก็มีการเริ่มการผลิตทำให้ความต้องการใช้น้ำกลับมาเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจึงคาดว่ายอดขายน้ำรวมปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 120 - 130 ล้านลูกบาศก์เมตรจากครึ่งปีแรกมียอดขายที่ระดับ 57 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมเปิดดำเนินการโครงการใหม่ ซึ่งประกอบด้วยโครงการ Reclamation Plant ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยกำลังผลิต 25,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันภายในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) และโรงงานผลิตน้ำปราศจากแร่ธาตุ เฟส 2 เพื่อให้บริการแก่บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ภายในไตรมาส 4/63 นี้เป็นต้นไป


ส่วนธุรกิจพลังงานล่าสุดได้ขยายธุรกิจพลังงานทดแทนควบคู่กับการพัฒนาโซลูชั่นด้านพลังงานรูปแบบใหม่ จากก่อนนี้ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโดยมีกำลังการผลิตรวมแล้วทั้งสิ้น 11 เมกะวัตต์ ซึ่งระยะต่อจากนี้นั้นมีแผนเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มเติมอีกราว 15 – 20 เมกะวัตต์ เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้นทั้งปีนี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 592 เมกะวัตต์


ล่าสุด ทริสเรทติ้งประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “A-” สะท้อนถึงฐานะการดำเนินงาน ภาพรวมธุรกิจและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง การได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอจากการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า รวมถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานทางเลือก อาทิ การขยายธุรกิจสาธารณูปโภคไปยังลูกค้านอกนิคมอุตสาหกรรม การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โซลาร์รูฟท็อป การผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม (Waste to Energy) ตลอดจนโอกาสการเข้าลงทุนในกิจการหรือการซื้อสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้บริษัทฯสามารถเติบโตทั้งแบบออร์แกนิคและอินออร์แกนิคไปพร้อมๆ กัน ปัจจัยเหล่านี้ทำให้บริษัทมีฐานรายได้และส่วนแบ่งกำไรที่แข็งแกร่ง รวมถึงมีสภาพคล่องที่เพียงพอต่อการชำระหนี้และการดำเนินงานของบริษัทฯ


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews