Phones





RATCH คาดเซ็นPPAโรงไฟฟ้ากวางจิ1 ต้นปี 64

2020-10-06 15:55:58 624




นิวส์ คอนเน็คท์ - RATCH คาดเซ็น PPA โรงไฟฟ้ากวางจิ1 ต้นปี 64 หลังจากลงนามในสัญญา JDA ร่วมพัฒนาโครงการกับ EGCO และกฟผ.อินเตอร์ฯ ลุ้นปิดดีลอีก 2 โครงการในช่วงที่เหลือของปีนี้หนุนกำลังการผลิตใหม่ปีนี้ตามเป้า 780 เมกะวัตต์ ขณะที่ธุรกิจ Wood Pellet อยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าญี่ปุ่น-เกาหลี เริ่มขายปี 65 ส่วนผลประกอบการปี 63 คาดใกล้เคียงปี 62 พร้อมเตรียมออกหุ้นกู้ 8 พันล้านบาทเสริมแกร่งการเงิน


เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2563 นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า ภายหลังจากลงนามสัญญา JDA พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนกวางจิ 1 ขนาดกำลังการผลิต 1,320 เมกะวัตต์ในเวียดนามร่วมกับบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO และบริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เมื่อช่วงเดือน ก.ย. 63 ที่ผ่านมานั้นส่งให้ RATCH มีกำลังการผลิตเข้ามาเพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง 63 อีกราว 400 เมกกะวัตต์ตามสัดส่วนการถือหุ้น 30% ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้ากวางจิ 1 คาดว่าจะลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับรัฐบาลเวียดนามได้ต้นปี 64 นอกจากนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถปิดดีลโครงการใหม่ได้อีกอย่างน้อย 1-2 โครงการในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งในประเทศลาว อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน และเชื้อเพลิงฟอสซิวทั้งที่เป็นโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ และโครงการที่ผลิตไฟฟ้าอยู่แล้ว


ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลัง 63 บริษัทจึงมั่นใจว่าจะกำลังการผลิตไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มเป็นในระดับ 537 เมกะวัตต์ตามเป้าหมาย จากครึ่งปีแรก 63 นั้นมีกำลังการผลิตใหม่อยู่ 243 เมกะวัตต์จากที่ปิดดีลโครงการใหม่ 4 โครงการ รวมกับส่วนขยายของโรงไฟฟ้าเดิมอีก 1 โครงการ และในปีนี้จะส่งผลให้มีกำลังการผลิตเข้ามาใหม่เป็นไปตามเป้าหมาย 780 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิตทั้งหมดในสิ้นปี 63 เป็น 8,714.68 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการลงทุนในธุรกิจจัดหาเชื้อเพลิงชีวิมวลอัดแท่ง (Wood pellet) ที่จะลงทุนในสปป.ลาวนั้นปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีนซึ่งจะเป็นลูกค้าระยะยาวคาดว่าจะเริ่มส่งออกได้ในปี 65 นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเตรียมออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 8 พันล้านบาท ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ในระดับ "AAA" เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ชำระคืนเงินกู้เดิมที่มีอยู่ของบริษัท รวมถึงใช้สำหรับการขยายธุรกิจในโครงการพลังงานหมุนเวียน ซึ่งการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก


ขณะที่ภาพรวมผลประกอบการปี 63 แม้ในช่วงครึ่งปีแรก 63 จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลง และมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าบางแห่ง แต่ก็ยังมั่นใจว่าจะเติบโตใกล้เคียงกับปี 62 ที่มีรายได้รวม 43,220 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5,963 ล้านบาท ซึ่งยังมีปัจจัยหนุนในช่วงครึ่งปีหลัง 63 จากโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ที่เข้ามาในระบบ ประกอบกับโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ น้ำงึม 2 กำลังการผลิตติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน เซน้ำน้อย กำลังผลิตติดตั้ง 410 เมกะวัตต์ ในสปป.ลาว ช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเพิ่มช่วยให้ผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการรับรายได้จากการให้บริการโครงข่ายสายใยแก้วนำแสง และยังรับรู้รายได้ในธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เซนเซอร์ และค่าเช่าสัญญา Sigfox คาดว่าปีนี้ให้บริการได้ 350 จุด


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews