นิวส์ คอนเน็คท์ - IRPC โบรกฯ ประเมินปี 64 เริ่มเห็นแววฟื้นตัว ขณะที่ GIM ไตรมาส 3/63 คาดทรงตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อน อยู่ที่ 8.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ชี้ราคาหุ้นถูกเกินพื้นฐาน แนะนำซื้อ ให้เป้า 2.80 บาท

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” สำหรับหุ้นบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เนื่องจากราคาหุ้นถูกเกินกว่าที่จะมองข้ามไปได้ แต่ยังคงราคาเป้าหมายไว้เท่าเดิมที่ 2.80 บาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น IRPC กำลังกลับไปทดสอบระดับต่ำสุดที่เดือน มี.ค.อีกครั้ง โดยคาดว่ากำไรสุทธิหลังหักภาษี (NPAT) ของ IRPC จะติดลบในปีนี้ เนื่องจากมีผลขาดทุนจากสต็อก 7.80 พันล้านบาทในครึ่งปีแรก 63 ขณะที่ค่าการกลั่น (GRM) อยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าผลประกอบการปี 63 จะปรับตัวลดลงจากปีก่อน เนื่องจากคาดว่า GRM จะอ่อนแอ แต่ธุรกิจเคมีภัณฑ์ยังไปได้ดี คาดค่ารการกลั่นรวม (GIM) ปีนี้จะอยู่ที่ 8.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ GIM ในไตรมาส 3/63 คาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 8.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลโดยธุรกิจเคมีภัณฑ์จะช่วยชดเชย GRM ที่ลดลง เหลือ 1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จาก 2.6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 2/63

อย่างไรก็ตาม ในปี 64 คาดว่าอัตรากำไรของ IRPC จะดีขึ้น โดยจะมีกำลังการผลิต PP และ ABS จากจีนเพิ่มเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง สำหรับธุรกิจปิโตรเคมีประเมินว่าจะมีกำลังการผลิต PP ใหม่เพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่จะมาจากจีน ซึ่งพยายามจะเพิ่มการผลิตในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า ดังนั้น ในระยะสั้นยังมองไม่เห็นปัจจัยที่จะเข้ามากระตุ้น จึงแนะนำให้นักลงทุนที่พร้อมจะถือหุ้นนานเกิน 3-6 เดือน "เข้าซื้อสะสม" โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 2.80 บาท

ด้านนายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ IRPC กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า แนวโน้มการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง ความต้องการผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกกลุ่มบรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น อยู่ที่ประมาณ 40-45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้ บริษัทอาจได้รับประโยชน์จาก Stock gain และจากปริมาณความต้องการของตลาดจะปรับตัวดีขึ้น เป็นผลมาจากการทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ของหลายประเทศ ที่ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews