Phones





SSP คาด EBITDA แตะนิวไฮ 3 ปีต่อเนื่อง

2020-10-12 12:32:07 382




นิวส์ คอนเน็คท์ - SSP โรงไฟฟ้าพื้นฐานแกร่ง ทริสฯจัดอันดับเครดิตองค์กรใ "BBB" ประเมิน EBITDA มีโอกาสแตะระดับสูงสุด 3 ปีต่อเนื่อง ตอกย้ำสถานะการเงินแข็งแกร่ง เดินหน้าลงทุนโรงไฟฟ้าต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น และเวียดนาม หนุนโตระยะยาว


เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563 นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ "BBB" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงกระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว และมีความเสี่ยงในการดำเนินงานที่ต่ำ รวมทั้งผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ


ปัจจุบันโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้วของบริษัทประกอบไปด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด โดยโรงไฟฟ้าของบริษัทดำเนินการภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัญญาที่ทำไว้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงในประเทศญี่ปุ่น และเวียดนาม ซึ่งคิดเป็นกำลังการผลิตรวมประมาณ 194 เมกะวัตต์ ในส่วนของกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนของการลงทุนของบริษัทนั้นคิดเป็นกำลังการผลิตสุทธิรวมประมาณ 173 เมกะวัตต์


นอกจากนี้อยู่ระหว่างพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 แห่งในประเทศญี่ปุ่น และโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง 1 แห่งในประเทศเวียดนาม และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาในประเทศอินโดนีเซียอีก 1 แห่ง ทั้งหมดนี้จะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตสุทธิรวมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 264 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566


ทั้งนี้ตามประมาณการพื้นฐานทริสเรทติ้งมีสมมติฐานว่า บริษัทจะสามารถเปิดดำเนินการโครงการใหม่ ๆ ได้ตามแผนการที่วางไว้ ซึ่งจะทำให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เติบโตที่ระดับ 1.3-2 พันล้านบาทต่อปี ในช่วงปี 2563-2566 โดยเพิ่มขึ้นจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 888 ล้านบาทในปี 2562


ส่วนการที่ทริสฯจัดอันดับองค์กรให้อยู่ระดับ "BBB" นั้น ถือเป็นสิ่งที่ดี และตอกย้ำความเข้มแข็งในด้านฐานะการเงินของบริษัท ซึ่งมีความพร้อมที่จะเดินหน้าลงทุนขยายโครงการโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และสามารถผลักดันการเติบโตในระยะยาว รวมทั้งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในทุกๆปี


"แผนการลงทุนบริษัทฯอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 1 โครงการ และมีโครงการที่เตรียมขอใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า 1 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 48 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่กำลังก่อสร้าง จำนวน 26 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการที่กำลังขอใบอนุญาต มีกำลังผลิต 22 เมกะวัตต์ คาดมีความชัดเจนภายในปีนี้ รวมถึงอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ และคาดจะสามารถจ่ายไฟเข้าระบบได้ภายในปี 2564" นายวรุตม์ กล่าว


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews