นิวส์ คอนเน็คท์ - GL ปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหาร แต่งตั้ง "ริกิ อิชิกามิ" นั่งเก้าอี้ CEO คนใหม่ ขณะที่ "ทัตซึยะ โคโนชิตะ" เป็นกรรมการ และรอง CEO คู่กับ "คานาเมะ ฮาชิโมโตะ"

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ประกาศปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหาร โดยแต่งตั้ง นายริกิ อิชิกามิ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ ขณะที่ นายทัตซึยะ โคโนชิตะ จะดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมกับ นายคานาเมะ ฮาชิโมโตะ ช่วยดูแลในเรื่องความสัมพันธ์กับนักลงทุน

โดยนายริกิ มีประสบการณ์เป็นผู้บริหารงานในกลุ่ม GL ภาคพื้นเอเชียมานานกว่า 8 ปี อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทย่อยแห่งแรกของ GL ในต่างประเทศ คือ GLF ในประเทศกัมพูชา เมื่อปี 2012 ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับใบอนุญาตเป็นประเทศแรกในประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ ยังเป็นผู้บุกเบิกทางด้านดิจิตอลไฟแนนซ์ ของ GL โดยได้ใช้รูปแบบดิจิตอลไฟแนนซ์ในประเทศลาวและพม่า โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำรูปแบบดิจิตอลไฟแนนซ์มาช่วยให้ธุรกิจในกลุ่มของ GL เป็นไปตามที่ต้องการได้ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

นายทัตซึยะ กล่าวว่า “ผมมีความยินดีที่จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทุกท่านทราบว่า GL จะมี CEO คนใหม่ ซึ่งมีประสบการณ์เป็นผู้บริหารงานในกลุ่ม GL ภาคพื้นเอเชียมานานกว่า 8 ปี เนื่องจาก GL มีความคืบหน้าทางด้านคดีความ และมุ่งเน้นในการบริหารธุรกิจให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น โดยได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนบทบาทของผู้บริหารให้เหมาะสม เพื่อประโยชน์แก่ตัวบริษัทและผู้ถือหุ้น"

ขณะที่นายริกิ กล่าวถึงภารกิจในการบริหาร GL หลังจากได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง CEO ว่า จากนี้ไปจะมุ่งประเด็นในบริหารธุรกิจในประเทศไทย โดยใช้ประสบการณ์ที่มีจากการบริหารธุรกิจในเครือ GL ในต่างประเทศ ซึ่งในลำดับถัดไปจะมีการหารือกับดีลเลอร์ รวมทั้งพนักงาน เพื่อนำข้อมูลที่จะได้จากการหารือมาปรับใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจของ GL เนื่องจากปัจจุบันมีหลายปัจจัยที่เข้ามามีผลต่อธุรกิจ เช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่ดี เป็นต้น โดยหลังจาก GL ประกาศผลดำเนินงานของไตรมาส 3/63 ออกมาแล้ว จะมีการจัดทำแผนธุรกิจที่ชัดเจนอีกครั้ง

“นี่คือการปรับโครงสร้างผู้นำองค์กร ไม่ใช่การเปลี่ยนผู้นำ นายคานาเมะ นายทัตซึยะ และผม เป็นกรรมการของ GL และมีบทบาทในการบริหารจัดการองค์กรมานานหลายปี เราเพียงแต่ปรับเปลี่ยนบทบาทของผู้บริหารให้เหมาะสม เพื่อประโยชน์แก่ตัวบริษัทและผู้ถือหุ้น และมุ่งเน้นในการบริหารธุรกิจให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น” นายริกิ กล่าว

สำหรับสัดส่วนรายได้ของ GL ณ สิ้นไตรมาส 2/63 พบว่า 66% มาจากธุรกิจในประเทศไทย อีก 16% มาจากกัมพูชา ขณะที่เมียนมา มีสัดส่วน 12% สปป.ลาว 4% และอินโดนีเซีย 2%

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews