นิวส์ คอนเน็คท์ - PTT เผย ช่วงไตรมาส 3-4/63 ยอดขายเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากช่วงไตรมาส 2 ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ขณะที่ปี 64 หวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวช่วยหนุนรายได้เติบโต คาดราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบ 40-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 3-4/63 ยอดขายเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันยานยนต์
ทั้งเบนซินและดีเซลเริ่มกลับมาปกติ หลังชะลอไปช่วงไตรมาส 2/63 ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่น้ำมันอากาศยานยังฟื้นตัวกลับมาไม่ถึง 50%

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากลุ่ม ปตท.บริหารจัดการในการผลิตน้ำมันของโรงกลั่นน้ำมันทั้ง 3 แห่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ผลิตน้ำมันอากาศยานเพียงรายเดียว ส่วนบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชย) หรือ PTTGC และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ไม่ได้ผลิตน้ำมันอากาศยานเลยในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ค่าการกลั่นของกลุ่มโรงกลั่นเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันในปีนี้คาดว่าจะเฉลี่ยในระดับ 41-42 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ส่วนแนวโน้มรายได้ปี 64 มีทิศทางดีขึ้นจากปีนี้ หลังมองราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในกรอบ 40-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และปริมาณขายที่น่าจะเพิ่มขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัว ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลก คาดหวังว่าจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด - 19 จะมีวัคซีนออกมาป้องกันหรือไม่ เพราะทิศทางราคาน้ำมันขึ้นอยู่กับตัวเลขจีดีพีเป็นหลัก

นอกจากนี้ การที่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ซึ่งมีท่าทีประนีประนอม น่าจะทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนผ่อนคลายลง อีกทั้งนโยบายสนับสนุนพลังงานทดแทนมากกว่าพลังงานจากฟอสซิล น่าจะทำให้การผลิตน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิสจากสหรัฐออกมาน้อยลง จะเป็นผลดีต่อทิศทางราคารที่จะปรับเข้าสู่สมดุล รวมถึงนโยบายจัดเก็บภาษีจากผู้มีรายได้มากให้สูงขึ้นและหันไปเพิ่มค่าจ้างแรงงานระดับล่าง ก็จะกระตุ้นกลุ่มฐากรากให้มีกำลังซื้อมากขึ้นส่งผลดีต่อเศรษฐกิจให้เติบโต

อย่างไรก็ตาม การกำหนดนโยบายด้านภาษีของนายไบเดน อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งจะกดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเช่นกัน แต่น่าจะชดเชยกันได้กับเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น จะหนุนการส่งออกของไทยให้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ เงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า แม้ว่าราคาน้ำมันดิบอาจจะขยับขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกไม่มากนัก และน่าจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับปัจจุบัน

ส่วนความคืบหน้าการนำหุ้น บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจตลาดและสอบถามนักลงทุน รวมถึงสภาวะตลาดด้วย ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปในส่วนนี้ออกมา

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews