นิวส์ คอนเน็คท์ – กทพ.เดินหน้าโครงการก่อสร้างทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพและทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (S1) มูลค่า 2,480 ล้านบาท คาดสรุปรูปแบบการลงทุนสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ ก่อนคุยกับการท่าเรือ สรุปแผนลงทุน คาดเสนอบอร์ด กทพ.ได้กลางปี 64

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 นางสาวกชพรรณ เข็มทอง ผู้อำนวยการกองวางแผน และวิเคราะห์โครงการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวภายหลังงานเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 3 เพื่อสรุปผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการงานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงินและผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพและทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (S1) ว่า หลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งสุดท้ายแล้ว จะดำเนินการพิจารณารูปแบบการลงทุนให้ได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากสรุปรูปแบบการลงทุนแล้ว จะนำข้อเสนอรูปแบบการลงทุนหารือร่วมกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ต่อไป เพื่อสรุปแผนการลงทุนขั้นสุดท้าย พร้อมกันนี้ กทพ.จะดำเนินการลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษาออกแบบก่อสร้างคาดว่าจะสามารถลงนามจ้างที่ปรึกษาได้ภายในเดือน ม.ค. 64 หลังจากนั้นก็จะดำเนินการออกแบบก่อสร้าง ควบคู่ไปกับการเสนอรายละเอียดรายงานผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ กทพ.คาดว่าจะสามารถเสนอแผนการลงทุนขั้นสุดท้ายต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด กทพ.) ได้ประมาณกลางปี 64 และเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ปลายปี 64 โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการในขั้นตอนของการประกวดราคาได้ในปี 65 พร้อมเริ่มดำเนินการก่อสร้างปี 66-67 เพื่อให้ทันเปิดบริการในปี 68

สำหรับโครงการทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพและทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (S1) นั้น แนวเส้นทางโครงการอยู่บนถนนอาจณรงค์ในพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย และเชื่อมต่อกับทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (S1) โดยมีจุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่บริเวณ Terminal 3 ของท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งมีการออกแบบให้เชื่อมต่อกับประตูทางเข้า-ออก Terminal 3 ในแนวทิศเหนือ-ใต้ โดยแนวสายทางจะเป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจร (ทิศทางละ 2 ช่องจราจร) ไปตามแนวถนนอาจณรงค์ ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ปริมาณจราจรของโครงการในเบื้อต้นพบว่า มีรถที่เข้ามาใช้บริการในโครงการ 3 ประเภท คือ รถ 4 ล้อ รถ 6-10 ล้อ และรถมากกว่า 10 ล้อ ทั้งนี้ในปีเปิดโครงการ ปี 68 คาดว่าจะมีปริมาณจราจรประมาณ 14,400 คัน/วัน มีมูลค่าลงทุนประมาณ 2,480 ล้านบาท และจากการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจของโครงการ พบว่า โครงการฯ มีความเหมาะสมคุ้มค่าต่อการลงทุน โดยมีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) เท่ากับร้อยละ 22 อัตราค่าโดยสารอยู่ในระดับ 50-70-110 บาท

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews