Phones





VGI ปี64อัดงบ 1 พันล.ออกโปรดักส์ใหม่

2020-12-18 14:40:46 1127




นิวส์ คอนเน็คท์ - VGI ผลงานครึ่งหลังของปี 63/64 โตดี หลังธุรกิจ O2O กระแสตอบรับดี กางแผนปี 64/65 อัดงบลงทุน 700-1,000 ล้านบาท ขยายงานเพิ่ม ลุยศึกษาซื้อกิจการด้านเทคโนโลยีเสริมทัพ แย้ม KEX เตรียมเข้าเทรด ผลตอบรับดี หนุนผลงานโตแกร่ง


เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 นางจิตเกษม หมู่มิ่ง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 63/64 เริ่มจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากภาพรวมยอดขายกลุ่มสื่อนอกบ้าน (Out of Home หรือ OOH) เริ่มปรับตัวดีขึ้น รวมถึงในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ธุรกิจประเภทออฟไลน์-ออนไลน์ (Offline to Online หรือ O2O) ได้รับความนิยมมากขึ้น


ขณะเดียวกัน​ ผลการดำเนินงานทั้งปี 63/64 บริษัทคาดว่าจะสามารถกลับมาเป็นบวกได้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ตามแผนงานที่บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 100 ล้านบาท อาทิ ค่าซ่อมบำรุง บุคคลและค่าไฟฟ้า ซึ่งในช่วง 6 เดือนของปีงบ บริษัทลดได้แล้ว 50 ล้านบาท


สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 64/65 บริษัทคาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนและสามารถแจ้งได้ในช่วงเดือน เม.ย.64 โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 700-1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการออกโปรดักส์ใหม่เพิ่มเติม รวมถึงติดตั้งจอในเส้นทางใหม่ โดยเฉพาะบนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู รวมไปถึงการขยายระบบดาต้าแพลตฟอร์มให้มีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น


นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าศึกษาการลงทุนในรูปแบบการซื้อกิจการ (M&A) อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจด้านเทคโนโลยีทางออนไลน์ เพื่อต่อยอดงานในบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งบริษัทยังมีอัตราหนี้สินต่อทุน D/E ต่ำเพียง 0.1 เท่า และมีศักยภาพในการหาแหล่งเงินลงทุน โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้งบลงทุนหาพันธมิตรใหม่ไปแล้วประมาณ 10,000 ล้านบาท เช่น KERRY, Maco, PLANB


ส่วนบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ที่เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ​ วันที่ 24 ธ.ค.นี้ มองว่ากระแสตอบรับดี มีผู้เข้าจองซื้อกว่า 10 เท่า จากการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 331 ล้านหุ้น ซึ่งการนำเงินระดมทุนประมาณ 8 พันล้านบาท จะช่วยขยายงานและกำไรเพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อบริษัท ทั้งนี้ภายหลังจาก KEX เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ VGI จะมีสัดส่วนถือหุ้นลดลงเหลือ 19% จากเดิม 23%


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews