Phones





ตลท.หารือ ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์คุมหุ้นฟรีโฟลทต่ำ

2021-01-08 16:36:30 1175




นิวส์ คอนเน็คท์ - ตลท.คาด IPO ปี 64 ใกล้เคียงปีก่อนที่ 5.55 แสนล้านบาท หลังมีบริษัทให้ความสนใจเข้าระดมทุนสูง เผยอยู่ระหว่างหารือ ก.ล.ต.ปรับปรุงเกณฑ์กำกับดูแลหุ้นฟรีโฟลทต่ำ แจงความคืบหน้ากระดานเทรดที่ 3 คาดชัดเจนไตรมาส 1/64


เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เปิดเผยว่า คาดว่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) ของหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนใหม่ (IPO) ในปี 64 จะอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับปี 63 ที่ 5.55 แสนล้านบาท เนื่องจากมีบริษัทให้ความสนใจเข้ามาระดมทุนค่อนข้างมาก รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังจะมุ่งเน้นการส่งเสริมให้มีบริษัทจดทะเบียนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (New S-Curve) เป็นต้น


ขณะที่การเปิดให้บริษัทจากต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ยังคงเน้นกลุ่มบริษัทในประเทศ CLMV แต่ในปีที่ผ่านมาอาจมีการเลื่อนการเข้าจดทะเบียนไปบ้าง เนื่องจากการเตรียมความพร้อมด้านข้อมูลของบริษัทที่ต้องการระดมทุนที่ล่าช้า และภาพรวมของตลาดภายหลังจากเกินโควิด-19


ส่วนการขยายฐานผู้ลงทุนใหม่ๆ จะนำดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนช่วย เพื่อให้ผู้ลงทุนทำธุรกรรมได้ง่ายขึ้น รวมถึงมุ้งเน้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น กองทุนรวม และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ประกันชีวิตควบการลงทุน


นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างพิจารณาปรับปรุงมาตรการกำกับดูแล และศึกษาหาข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการกำกับดูแลหุ้นที่มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยอยู่ในระดับต่ำ (ฟรีโฟลทต่ำ) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันก็มีวิธีการจัดการอยู่ราว 3-4 โซลูชั่น


ด้านคืบหน้าของกระดานเทรดที่ 3 หรือการซื้อขายหุ้น SME ตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส 3/64 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างส่งเรื่องให้ ก.ล.ต.พิจารณาอนุมัติ


สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นในช่วงต้นปี 64 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากข่าวการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และกระแสเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ (Fund Flow) ส่งผลทำให้มูลค่าซื้อขายปรับตัวเพิ่มขึ้น


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews