นิวส์ คอนเน็คท์ - TMILL คาดผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก ชี้เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ มั่นใจยอดขายทั้งปีเข้าเป้า กำลังการผลิตแตะ 80% จ่อชงบอร์ดพิจารณาจ่ายปันผลช่วงเดือน ต.ค.นี้

นางแววตา กุลโชตธาดา รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL เปิดเผยว่า คาดผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 62 จะเติบโตดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4/62 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับมีคำสั่งซื้อจากลูกค้ามากขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล และมีความต้องการสูง

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตถูกลง อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเห็นผลที่ชัดเจนในช่วงที่มีความต้องการใช้ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีการสต๊อกสินค้าไปจนถึงสิ้นปีไว้แล้ว ทำให้มั่นใจว่าผลงานทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยมียอดขายเติบโตที่ 10% และกำลังการผลิตอยู่ที่ 80% จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 72% ของกำลังการผลิตรวม

นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายตลาดในต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็น SMEs ซึ่งมีจำนวนมากในต่างจังหวัด และเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี โดยล่าสุดได้มีการจัดตั้งทีมขายเพิ่มอีก 1 ทีม เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาจ่ายปันผลระหว่างกาล เบื้องต้นคาดว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมช่วงเดือน ต.ค. นี้ หากได้รับอนุมัติ คาดว่าจะสามารถจ่ายได้ในช่วงเดือน พ.ย.62 ทั้งนี้ ตามนโยบายบริษัทจะมีการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ

สำหรับผลดำเนินงานของบริษัทในครึ่งปีแรก 62 บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปี 61 โดยที่ปริมาณการจำหน่ายแป้งสาลีเพิ่มขึ้น 1.8% และราคาจำหน่ายแป้งสาลีเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.1% ส่วนปริมาณจำหน่ายรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 2.3% และราคาจำหน่ายรำข้าวสาลีเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.8%

ทั้งนี้ กำไรสุทธิในไตรมาส 2 ที่ลดลงเป็นผลมาจากปัจจัยต้นทุนขายในไตรมาส 2/62 คิดเป็น 84.6% ของรายได้สูงขึ้นจาก 80.7% เมื่อเทียบกับในไตรมาส 2/61 เป็นผลมาจากราคาเฉลี่ยของวัตถุดิบที่ใช้ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/62 ลดลง 4.0% โดยส่วนของการใช้อัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยในไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 69.90% ลดลง 0.63% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 61 อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้อื่นในไตรมาส 2/62 เพิ่มขึ้น 3.70 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปี 61 เนื่องจากปี 62 บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 3.62 ล้านบาท