นิวส์ คอนเน็คท์ - SCGP ตั้งเป้ารายได้ปี 64 โตไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท เตรียมรับรู้รายได้หลังจากการควบรวมกิจการ อัดงบ 2 หมื่นล้านบาท ขยายกิจการ-เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต บอร์ดเคาะจ่ายปันผล 0.45 บ./หุ้น ขึ้น XD วันที่ 7 เม.ย. 64

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 64 เติบโตไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากการขยายกำลังการผลิต รวมถึงความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ขณะเดียวกัน ล่าสุดบริษัทได้มีการควบรวมกับบริษัท SOVI เป็นบริษัทที่มีฐานลูกค้าที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค และบริษัท Go-Pak ซึ่งผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์ที่ขยายสินค้าไปยังประเทศตะวันตก อังกฤษ อเมริกา มียอดจำหน่ายสินค้ากว่า 7,000 ชิ้นต่อปี โดยการควบรวมกิจการดังกล่าว บริษัทคาดว่าจะสามารถช่วยผลักดันยอดขายประมาณ 5,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในปี 64 บริษัทตั้งงบลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท (รวมถึงการควบรวมกิจการของ Go-Pak) โดยจะใช้ขยายกิจการที่มีอยู่เดิม รวมไปถึงการลงทุนควบรวมกิจการ และการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการเติบโตในอนาคต

สำหรับความคืบหน้าการขยายกำลังการผลิต 3 โครงการ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 7,700 ล้านบาท แบ่งเป็นการขยายงานประเทศอินโดนีเซีย เมือง Surabaya (Fajar #2) โครงการขยายการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิตส่วนเพิ่ม 400,000 ตันต่อปีใช้เงินลงทุนประมาณ 1,735 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 2/64

ส่วนในประเทศฟิลิปปินส์ เมือง Bulacan (UPPC #3)  โครงการขยายการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์  กำลังการผลิต 220,000 ตันต่อปี เงินลงทุนประมาณ 5,388 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการ Q3/64 และในไทย  จังหวัดสมุทรสำคร (Prepack #2)  โครงการขยายการผลิตบรรจุภัณฑ์พอลิเมอร์แบบอ่อนตัว  กำลังการผลิต  53 ล้านตารางเมตรต่อปี เงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท  ดำเนินการได้ใน Q3/64

นอกจากนี้ คณะกรรมการมีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสด งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 63 จำนวน 0.45 บาท/หุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 7 เม.ย. 64 วันที่จ่ายปันผล 22 เม.ย. 64

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนตู้คอนเทนเนอร์ลดลง ทำให้มีผลกะทบกับการส่งออกของสินค้าบรรจุภัณฑ์บ้างเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ร้อยละ 50:50

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews