Phones





OR อัดงบ 1 หมื่นล้าน ร่วมทุน-ซื้อกิจการ

2021-02-11 14:59:14 458




นิวส์ คอนเน็คท์ - OR เตรียมงบลงทุน 10,000 ล้านบาท ใช้ร่วมทุน-ซื้อกิจการ หนุน EBITDA ส่วนดังกล่าวแตะ 10% ลุยขยายสาขาทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เผยไม่ปิดกั้นโอกาสธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกัญชง


เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ SET เป็นวันแรก โดยเปิดการซื้อขายที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท หรือ 47.22% จากราคา IPO ที่ 18 บาทต่อหุ้น โดยระหว่างการซื้อขาย มีแรงซื้อดันราคาไปแตะระดับสูงสุดที่ 28 บาท


นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR เปิดเผยว่า สำหรับราคาหุ้นเปิดการซื้อขายเป็นวันแรกที่ราคา 26.50 บาท เป็นราคาที่น่าพอใจ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัท อย่างไรก็ตามภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะน้ำเงินไปขยายกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศ


ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าในวันที่ 17 ก.พ.64 จะสามารถเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ด้วยเกณฑ์ Fast-track และเข้าคำนวณในดัชนี FTSE ช่วงวันที่ 19-20 ก.พ.นี้ และช่วงต้นเดือน มี.ค.64 จะสามารถเข้าคำนวณในดัชนี MSCI ซึ่งเป็นบริษัททำดัชนีราคาหุ้นชั้นนำของโลก และเป็นเกณฑ์มาตรฐานให้กับนักลงทุนต่างประเทศ ในการคัดเลือกหุ้นและผลตอบแทน


นอกจากนี้บริษัทตั้งงบลงทุนในอีก 5ปี ข้างหน้าราว 7.46 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ โดยในปี 64 บริษัทจะใช้งบลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการร่วมทุนกับพันธมิตร (JV) และซื้อกิจการ (M&A) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ามีสัดส่วนกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี (EBITDA) ในส่วนดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 10% ซึ่งปัจจุบันมีพันธมิตรเข้ามาเจรจาอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันในประเทศเฉลี่ย 100 สาขาต่อปี และสาขาร้านกาแฟ Cafe Amazon จำนวน 400 สาขา อีกทั้งยังมีการลงทุนศูนย์กระจายสินค้าของ Amazon รวมถึงโรงงานเบเกอร์รี่ในปีนี้ เพื่อลดต้นทุนในการผลิต รวมถึงยังมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศ ฟิลิปินส์ กัมพูชา และเวียดนาม โดยตั้งเป้าขยายสถานีบริการน้ำมันปตท.เป็น 650 แห่ง จากเดิม 350 แห่ง ร้านกาแฟ Cafe Amazon เพิ่มเป็น 550 แห่ง จากเดิม 200-240 แห่ง


อีกทั้งบริษัทได้ตั้งเป้า 5 ปี จะมีสัดส่วน EBITDA ในธุรกิจ Non-oil อยู่ที่ 32-33% จาก 9 เดือนแรกของปี 63 อยู่ที่ 25% ส่วนธุรกิจต่างประเทศ จะขึ้นมาอยู่ที่ 13% จากเดิมที่ 5.8% ขณะที่ธุรกิจน้ำมันอยู่ที่ 52% จากเดิมอยู่ที่ 68%


สำหรับล่าสุดที่ภาครัฐได้อนุมัติให้เอกชนสามารถประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกัญชงได้ หากไม่ผิดต่อข้อกฎหมายหรือผิดหลักเกณฑ์ด้าน ESG ซึ่งบริษัทไม่ได้ปิดกั้นโอกาสในการทำธุรกิจดังกล่าว ซึ่งการพัฒนาสินค้าและบริการของร้านกาแฟ Cafe Amazon บริษัทฯ ยังคงมองโอกาสทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews