นิวส์ คอนเน็คท์ – RATCH โชว์กำไรปี63 ที่ระดับ 6,287 ล้านบาท จัดสรรงบลงทุนปี64 ไว้ราว 15,000 ล้านบาท รองรับการขยายธุรกิจ เล็งขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 700 เมกะวัตต์

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 63 ได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าหงสาและกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า รวมทั้งมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังความร้อน Thang Long เวียดนาม ซึ่งบริษัทลงทุนผ่านกองทุน ABIEF เมื่อปีก่อนหน้า ส่งผลให้รายได้รวมปี 63 อยู่ที่ 16,155.92 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6,287 ล้านบาท

สำหรับปี 64 บริษัทตั้งเป้าลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตอีก 700 เมกะวัตต์(MW)โดยจะเป็นโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลัก 455 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 245 เมกะวัตต์ พร้อมทั้งได้จัดสรรเงินลงทุนสำหรับโครงการใหม่ไว้ 7,000 ล้านบาท หากสามารถดำเนินการตามเป้าหมายจะทำให้กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท เพิ่มขึ้นเป็น 8,874 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ บริษัทกำหนดกลยุทธ์การลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมาย 700 เมกะวัตต์ โดยจะลงทุนในโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 350 เมกะวัตต์ เพื่อเสริมกระแสเงินสดและรายได้ของบริษัทฯให้มั่นคงมากขึ้น รวมทั้งขยายโอกาสการลงทุนในตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่ธุรกิจพลังงานทดแทนเติบโต ที่และสามารถสนับสนุนเป้าหมายกำลังผลิตพลังงานทดแทน 2,500 เมกะวัตต์ภายในปี 68

นอกจากนี้ บริษัทจะจับมือกับพันธมิตรรายเดิมขยายการลงทุนโครงการใหม่ๆ ร่วมกัน สำหรับธุรกิจระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านพลังงานก็จะขับเคลื่อนโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาให้ไปสู่การร่วมทุนและดำเนินการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ การร่วมทุนนวัตกรรมด้านไฟฟ้ากับกลุ่ม กฟผ. ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงนามจัดตั้งบริษัทร่วมทุนได้ในปีนี้

รวมทั้งยังมีโครงการจัดตั้งโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่งในประเทศและสปป. ลาว และโครงการจัดหาเชื้อเพลิงแอลเอ็นจี ซึ่งโครงการดังกล่าวบริษัทได้จัดเตรียมแผนการจัดหาเงินไว้พร้อมแล้ว และมั่นใจว่าเป้าหมายที่วางไว้จะสามารถดำเนินการได้สำเร็จ

ขณะที่ในปี 64 บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปีนี้อีก 4 โครงการ รวมกำลังผลิตตามการถือหุ้น 537.04 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานลมยานดิน กำลังผลิตตามสัดส่วนถือหุ้น 149.94 เมกะวัตต์ (ถือหุ้น 70%) โรงไฟฟ้าพลังงานลมคอลเล็กเตอร์ 226.8 เมกะวัตต์ (ถือหุ้น 100%) โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว อินโดนีเซีย 145.15 เมกะวัตต์ (ถือหุ้น 49%) และโรงไฟฟ้าพลังงานลม Thanh Phong เวียดนาม 15.15 เมกะวัตต์ (ถือหุ้น 51%)

ในส่วนของโรงไฟฟ้าที่เดินเชิงพาณิชย์แล้ว กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 6,700 เมกะวัตต์ จะมุ่งเน้นบริหารประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า การใช้เชื้อเพลิง ต้นทุนการผลิต และควบคุมการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ดีที่สุด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.64 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2564 มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 63 หุ้นละ 2.4 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 3,480 ล้านบาท โดยจะนำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 64 ในวันที่ 5 เม.ย.64 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 เม.ย.64 ทั้งนี้ บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 63 (ม.ค. – มิ.ย.63) จำนวน 1,667.50 ล้านบาท 1.15 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 23 ก.ย.63

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews