นิวส์ คอนเน็คท์ - KTC เปิดเกมส์รุกสินเชื่อมีหลักประกัน หวังเพิ่มช่องทางสร้างรายได้และกำไร วางสินเชื่อ “พี่เบิ้ม” เป็นตัวบุกตลาด เล็งขยายบริการจำนำทะเบียนสู่ต่างจังหวัด พร้อมศึกษาโมเดลสินเชื่อใหม่หลังเข้าถือหุ้น KTBL

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 64 จะยังคงเน้นการบริหารต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมะสม ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผนจัดสัดส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้นมากขึ้น และระดมเงินกู้ยืมระยะยาวไม่เกิน 12,000 ล้านบาทในช่วงอายุที่สั้นลงจากเดิม เพื่อรองรับหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปี64 และการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ

นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการบริหารพอร์ตลูกหนี้โดยรวมให้มีคุณภาพที่ดี ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีการตั้งสำรองลดลงจากปีก่อน หลังจากได้มีการตั้งสำรองเต็มจำนวนไปแล้วในไตรมาส 2/63 รวมทั้งในช่วงไตรมาส 3/63 ได้ดำเนินการตัดขายหนี้ออกไปเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ในปี 64 บริษัทวางเป้าหมายในการขยายสินเชื่อมีหลักประกันเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่สร้างผลตอบแทนค่อนข้างดีและรวดเร็ว โดยบริษัทวางสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม” เป็นตัวหลักในการขยายตลาดจำนำทะเบียนรถยนต์ ซึ่งจะมีการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการอาศัยช่องทางสาขาของธนาคารกรุงไทยในการขยายตลาดต่างจังหวัด โดยตั้งเป้าหมายยอดปล่อยสินเชื่อในปีนี้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท

ในส่วนของสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลนั้น บริษัทจะเน้นกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดการใช้จ่าย การออกแคมเปญที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค และการร่วมมือกับพันธมิตรร้านค้า ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปีนี้เติบ 8% หรือราว 210,000 ล้านบาท และจำนวนสมาชิกใหม่ที่ 235,000 ใบ ส่วนสินเชื่อบุคคลตั้งเป้ารักษายอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลใกล้เคียงปีก่อนที่ 29,915 ล้านบาท

“ปี 63 เราตั้งสำรองเต็มจำนวน และไรท์ออฟหนี้ก้อนใหญ่ออกไป จึงดึงกำไรเราลดลงเมื่อเทียบกับปี 62 แต่ปีนี้มั่นใจว่ากำไรจะทำนิวไฮ เพราะการตั้งสำรองหนี้เริ่มลดลง และเราปรับกลยุทธ์มาเน้นสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดี และมีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งปีนี้เราจะรุกสินเชื่อมีหลักประกันมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนเคทีซีพี่เบิ้ม ซึ่งจะขยายตลาดต่างหวัดมากขึ้น” นายระเฑียร กล่าว

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews