Phones





NER อัพเป้า ผลงานโตต่อเนื่อง

2021-03-21 08:08:54 776



NER อัพเป้า ผลงานโตต่อเนื่อง (สกู๊ปพิเศษ)



ผลการดำเนินงานขอ NER หรือ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ ในปี 2563 มีรายได้จากการขายรวม 16,349.78 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการขายในประเทศ 10,587.66 ล้านบาท และรายได้จากการขายต่างประเทศ 5,762.12 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิได้ 858.68 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เนื่องจากการขายในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานยางแท่งแห่งที่ 2 ซึ่งเริ่มมีรายได้ตั้งแต่เดือน ก.ค. 63 ประกอบกับคำสั่งซื้อยางผสมจากลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากลูกค้าประเทศจีนและสิงคโปร์เป็นสำคัญ


ขณะที่ นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NER ระบุว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 2564 บริษัทฯ มองว่าราคายางพาราจะทรงตัวอยู่ในระดับสูง จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในขณะนี้และในระยะยาว จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับปัจจัยบวกโดยตรง ซึ่งได้แก่ ราคายางแผนรมควันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 70 บาทต่อกิโลกรัม จากปีก่อนที่อยู่ประมาณ 55 บาทต่อกิโลกรัม และราคายางแท่งที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57 บาทต่อกิโลกรัม จากปีก่อนที่อยู่ประมาณ 45 บาทต่อกิโลกรัม



ทั้งนี้ บริษัทจึงประมาณการณ์รายได้ในเบื้องต้นของปีนี้จะอยู่ที่ 21,000-22,000 ล้านบาท จากยอดขายประมาณ 410,000 ตัน ซึ่งปัจจุบัน บริษัทยังมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าเข้ามาจำนวนมาก ทั้งลูกค้ารายเดิมและรายใหม่ โดยล่าสุดได้ลูกค้าจากประเทศสิงคโปร์มีคำสั่งซื้อจำนวน 2,000 ตันต่อเดือน รูปแบบสัญญา Long-term contract และผู้ประกอบการจากประเทศอินเดีย ได้มีคำสั่งซื้อจำนวน 2,000 ตันต่อเดือน รูปแบบสัญญา Long-term contract เช่นกัน รวมถึงผู้ประกอบการจากจีนที่อยู่ระหว่างเตรียมเข้ามาเซ็นสัญญาเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง


ขณะเดียวกัน จากการที่รัฐบาลจีนออกแคมเปญรถเก่าแลกรถใหม่ ส่งผลให้บริษัทได้รับโอกาสดีในหลายด้าน ทั้งเรื่องกำลังการผลิตที่บริษัทตั้งเป้าการผลิตปี 64 ที่ 4.1 แสนตัน/ปี จากกำลังการผลิตทั้งหมดที่ 4.6 แสนตัน/ปี และการกำหนดราคาซื้อขายที่ดีขึ้น เนื่องจากมีความต้องการการใช้ยางพาราที่มากขึ้น โดยเมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์จีนได้ประกาศมาตรการเกี่ยวกับการส่งเสริมศักยภาพการบริโภคในชนบท มีการดำเนินงานที่สำคัญ 5 ด้าน ซึ่ง 1 ในนั้นคือ การรักษาเสถียรภาพและการส่งเสริมการขยายตัวของการบริโภครถยนต์ โดยให้เงินอุดหนุนสูงสุด 1.3 หมื่นถึง 1 แสนบาทต่อคัน


"สัดส่วนรายได้ของการจำหน่ายสินค้าในปี 64 นี้ จะมาจากต่างประเทศ 45% และในประเทศ 55% ต่างจากปีก่อนที่มีรายได้จากต่างประเทศจะอยู่ที่ 40% และ 60% เป็นในประเทศ ซึ่งปีนี้บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการขายต่างประเทศมากยิ่งขึ้น เนื่องจากได้มาร์จิ้นสูงกว่าระดับปกติ ประกอบกับความต้องการที่อยู่ในระดับสูง" นายชูวิทย์ กล่าว



ผลงานที่เติบโตต่อเนื่อง และปัจจัยบวกที่เข้ามาหนุนผลประกอบการด้านบวก ทำให้ NER ส่งสัญญาณว่า ภายหลังจากที่บริษัทแจ้งผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 1/64 แล้ว บริษัทฯ มีแผนจะปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ของปี 64 เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นและราคายางที่สูงขึ้น ประกอบกับโรงงานใหม่ที่แล้วเสร็จเมื่อสิ้นปี 63 สามารถเดินเครื่องได้เต็มประสิทธิภาพ จึงทำให้กำลังผลิตโดยรวมจะอยู่ที่ 460,000 ตัน และหลังจากนี้บริษัทฯ จะเร่งดันกำลังการผลิตให้ไปสู่ 510,000 ตัน ซึ่งคาดว่าโรงงานส่วนต่อขยายจะแล้วเสร็จและพร้อมที่จะดำเนินการได้ในปีหน้าต่อไป


นอกจากธุรกิจยางพาราแล้ว ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้านั้น NER ก็มีความพร้อมเช่นกัน โดยนายชูวิทย์ระบุว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการธุรกิจโรงไฟฟ้ารายใหญ่ โดยมีแผนจะร่วมทุนดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ประเภทชีวภาพ ซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ระหว่างรอเอกสารรายละเอียดขอบเขตงาน (TOR) ของหน่วยงานภาครัฐ โดยหากมีความคืบหน้าทางบริษัทพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลโดยทันที ซึ่งจะหนุนต่อผลการดำเนินงานให้มีเสถียรภาพทางการเงินมากยิ่งขึ้น



ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินว่า แนวโน้มกำไรสุทธิปี 64 ของ NER จะขึ้นไปแตะ 1,151 ล้านบาทได้ โดยมีปัจจัยหนุนจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 410,000 ตัน บนกำลังการผลิตที่ขยายตัวเป็น 460,000 ตัน/ปี ขณะที่ราคาขายยางแท่ง (STR) ยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง จากการฟื้นตัวของยอดขายรถยนต์ และความต้องการถุงมือยางยังอยู่ในระดับสูง พร้อมกับอัพราคาเป้าหมายจาก 5.00 บาท เป็น 5.70 บาท พร้อมคำแะนำ "ซื้อ" เช่นเดียวกับ บล.เอเชีย พลัส แนะนำ "ซื้อ" เช่นกัน โดยปรับราคาเป้าหมายเป็น 6.20 บาท


ผลงานของ NER ในปี 64 น่าติดตามกันอีกแล้ว...เป้าหมายชัดเจนแบบนี้ "ปรับเพื่อโต" ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย.


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews