นิวส์ คอนเน็คท์ - SK ตั้งเป้ารายได้ปี 64 เติบโต 15-20% ตุน Backlog 288 ล้านบาท ลุยชิงงานใหม่หน่วยงานรัฐมูลค่าพันล้านบาท หวังได้งานเพิ่มอีกเพียบ

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 นายภากร ตั้งนุกูลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายงานขายและการตลาด บริษัท ศิรกร จำกัด (มหาชน) หรือ SK เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 64 รายได้จะเติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 561 ล้านบาท โดยขณะนี้มีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ 288 ล้านบาท เป็นงานที่รับรู้ต่อเนื่องจากปีก่อน 196 ล้านบาท และงานที่เริ่มดำเนินการปีนี้อีก 46 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา 56 ล้านบาท

โดยในช่วงปลายไตรมาส 2/64 คาดว่าจะมีงานประมูลรับเหมาระบบสายส่งไฟฟ้า ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่า 1,000 ล้านบาท บริษัทคาดหวังได้รับงาน 100-200 ล้านบาท และมีงานประมูลเหมาระบบสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 KV อีกประมาณ 1,800 ล้านบาท ที่ปัจจุบันบริษัทมีศักยภาพในการรับงานเองได้แล้ว แต่เนื่องจากงานเก่ายังไม่แล้วเสร็จ ทำให้บริษัทยังคงต้องรับงานร่วมกับบริษัทคู่ค้า นอกจากนี้ ในครึ่งปีแรก คาดว่าจะมีงานประมูลผลิตภัณฑ์คอนกรีต 180 ล้านบาท ออกมาด้วย

ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรขั้นต้นจากงานบริการดีขึ้น จากความสามารถในการรับงานประมูลระบบสายส่งไฟฟ้าได้มากขึ้น ขณะที่กำไรขั้นต้นจากงานผลิตลดลง เนื่องจากราคาวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตคอนกรีตอย่าง เหล็ก ลวดตะแกรง ได้มีการปรับขึ้นราคา ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วถึงตอนนี้กว่า 40-50% โดยบริษัทฯ พยายามบริหารจัดการวมถึงพยายามสื่อสารกับลูกค้าในเรื่องราคาต้นทุนที่ปรับขึ้นมากขึ้น

สำหรับแผนงานระยะยาวของบริษัทฯ จะมุ่งเน้นไปที่งานรับเหมาระบบสายส่งไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนอากาศ หลังจากจบงานรับเหมาระบบสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 KV บริษัทฯจะขยับไปงานรับเหมาระบบสายส่งไฟฟ้าขนาด 500 KV ที่มีมูลค่ามากขึ้นต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาและหาบริษัทคู่ค้าเข้ามาเรื่อยๆ

ในส่วนของเงินทุนที่บริษัทฯ เปิดระดมทุนไปเมื่อปีที่แล้ว ได้เงินทุนหลังหักค่าใช้จ่าย 87 ล้านบาท และแบ่งเงินลงทุนเป็นสองส่วน คือ เงินลงทุนหมุนเวียนสำหรับงานรับเหมาก่อสร้าง 67 ล้านบาท อีก 20 ล้านบาท ใช้ลงทุนเครื่องจักรและการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง โดยขณะนี้บริษัทใช้เงินลงทุนไปแล้วประมาณ 81 ล้านบาท

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews