นิวส์ คอนเน็คท์ - PORT ตั้งเป้ารายได้ปี 64 เติบโต 15% หลังนำเข้า-ส่งออกฟื้น คาดไตรมาส 1/64 โตดี จากปริมาณตู้คอนเทนเนอร์คลี่คลาย ชี้ค้าระวางเรือพุ่งไม่กระทบ เดินหน้า 2 โปรเจคใหม่ คาดเปิดให้บริการปีหน้า

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 เติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,359.94 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการนำเข้าและส่งออกที่ฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีปริมาณการนำเข้า-ส่งออกกว่า 30,000 ตู้ รวมถึงมองว่าปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จะเริ่มคลี่คลายในช่วงไตรมาส 2/64 เป็นต้นไป

รวมถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/64 จะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน แต่หากเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า จะต่ำกว่า เนื่องจากช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และมีปริมาณการส่งออกมากว่าทุกไตรมาส

สำหรับแนวโน้มของค่าระวางเรือที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ไม่กระทบต่อผลการดำเนินงาน และค่าบริการของบริษัท เนื่องจากบริษัทมีสัญญากับลูกค้าในการกำหนดราคาล่วงหน้าไว้แล้ว ร่วมที่ผ่านมาค่าระวางเรือมีการปรับขึ้น และลงมาโดยตลอด

นอกจากนี้ประเด็นเรื่องของ เรือ เอเวอร์ กิฟเว่น ที่ขวางคลองซูเอซ ไม่กระทบในเรื่องของปริมาณสินค้า เนื่องจากเรื่อลำดังกล่าวไม่ได้เดินเรือเข้ามาในเอเชีย แต่จะกระทบในเรื่องของการนำเข้า และส่งออกสินค้าที่มีความล่าช้ามากกว่า

ด้านความคืบหน้าการลงทุนโครงการศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ผ่านบริษัท บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (Bangkok Logistics Park) คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงกลางปีนี้ และเปิดดำเนินงานในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้มีการเจรจากับลูกค้าที่จะมาใช้บริการไว้บ้างแล้ว

ส่วนโครงการท่าเรือแห่งใหม่แห่งที่ 3 ผ่าน บริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด (Bangkok River Terminal) ซึ่งร่วมลงทุนกับบริษัท APM Terminals จำกัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งหากไม่มีปัญหาใหม่มากระทบ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในต้นปีหน้า

"การลงทุนใหม่ทั้ง 2 โครงการ หากมองในภาพรวมของ PORT บริษัทคาดหวังว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 25% และอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 5% หรืออาจมีโอกาสไปแตะที่ระดับ 7-8% ได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานในแต่ละโครงการต่างๆ" นายบัญชัย กล่าว

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews