นิวส์ คอนเน็คท์ – WHA ออกหุ้นกู้ 3 ชุด มูลค่า 4,000 ล้านบาท อายุ 2-5 ปี หลังจากที่เปิดเสนอขายวันที่ 19 – 21 เมษายน 2564 ยอดจองล้นกว่า 4 เท่า สะท้อนความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุน พร้อมทิศทางธุรกิจในปี 2564 มีแนวโน้มยังคงเดินหน้าพัฒนาใน 4 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ในการเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2564 มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท หลังจากที่เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 19 – 21 เมษายน 2564 แบ่งเป็น 3 ชุด โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 จำนวน 1,000 ล้านบาท มีอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.30% ส่วนชุดที่ 2 จำนวน 2,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.73% และหุ้นกู้ชุดที่ 3 จำนวน 1,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.50% ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนที่มีต่อดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากแผนการขยายธุรกิจที่มีความต่อเนื่องและชัดเจน ความมุ่งมั่นในการบริหารงาน ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง การมีวินัยทางการเงิน และการบริหารจัดการฐานะทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ตอบโจทย์ความน่าเชื่อถือของกลุ่มนักลงทุน สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินไปชำระคืนหนี้เดิมหรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน

ขณะที่ หุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ A- เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2564 โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ใน ธุรกิจโลจิสติกส์ และ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงฐานรายได้ประจำจำนวนมากจากธุรกิจสินทรัพย์ให้เช่า ธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคและไฟฟ้า ตลอดจนความยืดหยุ่นทางการเงินจากการขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) อีกด้วย

สำหรับ ทิศทางธุรกิจในปี 2564 มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าพัฒนาใน 4 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจโลจิสติกส์ที่สดใส มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าให้การบริการผ่านการผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ การให้บริการด้านโลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ตลอดจนอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เตรียมจ่อขยายพื้นที่เพิ่มเติมรองรับการลงทุนที่เพิ่มขึ้น หลังจากการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการเป็น “Your Ultimate Solution Partner” โดยการยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการ ผ่านการพัฒนาโซลูชั่นตามแนวคิดการผสมผสานแพลตฟอร์มทางธุรกิจ (Business Platform) เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานเดิม (Infrastructure Base) เพื่อต่อยอดทางธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงการเร่งเดินหน้าโครงการ Digital Transformation ตามแผนงานที่ได้วางไว้อย่างเต็มรูปแบบ

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews