นิวส์ คอนเน็คท์ - SABUY เผยไตรมาส 1/64 มีรายได้รวม 374 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มั่นใจปีนี้รายได้โตกว่า 25 % พร้อมเดินหน้าร่วมพันธมิตรเปิดธุรกิจใหม่ต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/64 มีรายได้ 374 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาท หรือ 1% และมีกำไรสุทธิ 34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนในส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหาร ทำให้สามารถสร้างผลประกอบการได้ดี และรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการขายสินค้าผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ โดยตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มีจำนวนเท่ากับ 5,876 ตู้ แม้ว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มชะลอตัวจากอุปสรรคในการเข้าเติมสินค้าในพื้นที่ แต่บริษัทได้นำสินค้าที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันเข้ามาจำหน่ายผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแทน

นอกจากนี้ บริษัทยังคงสามารถสร้างรายได้จากการให้บริการการฝากเงินและโอนเงิน (Banking Agent) ที่เพิ่มมากขึ้น จากพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่ลดการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสาขาและตู้ ATM ของธนาคาร รวมถึงรายได้ค่าบริการ สื่อโฆษณา บนตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณการให้บริการ และจำนวนตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่เพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 64 นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 25% โดยปัจจัยหลักมาจากธุรกิจตู้เติมเงิน ธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ธุรกิจศูนย์อาหารและ POS และ ธุรกิจใหม่ E-Money รวมถึงบริษัทตั้งงบการลงทุนในปีนี้ที่ 800 ล้านบาท

นอกจากนี้ SABUY Group ได้ขยายธุรกิจ ใน SABUY Ecosystem อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้ บริษัทได้ลงทุนและขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรธุรกิจในหลากหลายกิจการ อาทิ เช่น ธุรกิจ CRM & Loyalty Program, ธุรกิจ Payment System, ธุรกิจ E-Commerce, ธุรกิจ Supply Chain ซึ่งเริ่มต้นในธุรกิจอาหารเป็นลำดับแรก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ Ecosystem ทั้งแบบ Online และ Offline เพื่อสร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews