นิวส์ คอนเน็คท์ - SABUY ตั้งบริษัทย่อย ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท รุกธุรกิจสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ผนึก "ฮาวเด้น แมกซี่" บุกธุรกิจประกันภัย ครอบคลุมทัวประเทศ ซุ่มดีลพันธมิตร 3 ราย ลงทุนต่อยอดธุรกิจ

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นายวิรัช มรกตกาล กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพาณิชย์และการลงทุน บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดบริษัทย่อยใหม่ ได้แก่ บริษัท สบาย แคปปิตอล พลัส จำกัด ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เพื่อทำธุรกิจการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ให้กับฐานลูกค้าในระบบ Ecosystem โดยหลังจากนี้เตรียมขออนุญาตการทำธุรกิจ (ไลเซนส์) สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายใน 4 เดือนนี้ และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการปล่อยสินเชื่อได้ในช่วงไตรมาส 4/64

ขณะที่ปัจจุบัน SABUY มีฐานลูกค้ารายย่อยประมาณ 9 ล้านราย และกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีกเกือบแสนราย และยังมีพันธมิตรในระบบ Ecosystem อีกหลายรายที่มีข้อมูลต่างๆ ที่จะช่วยให้การปล่อยสินเชื่อสามารถทำได้รวดเร็ว

ขณะเดียวกัน ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับบริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด จัดตั้งบริษัท สบาย แมกซี่ จำกัด ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้า (JV) มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดย SABUY ถือหุ้นสัดส่วน 50% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 5 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมขอไลเซ่นส์ จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในช่วง 6 เดือนนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าให้บริการนายหน้าประกันภัยร่วมกับ ฮาวเด้น แมกซี่ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านช่องทางต่างๆ ภายใต้ Ecosystem ของกลุ่มสบายฯ ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายถึงระดับชุมชนได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ภายใต้ Ecosystem โดยเฉพาะการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านบริการของร้านชิปป์สไมล์ เซอร์วิส ที่กลุ่มสบายฯ ร่วมทุนกับบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ที่เปิดตัวช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันร้านชิปป์สไมล์มีเครือข่ายกว่า 1,800 สาขา และสามารถเข้าถึงบริการจากทาง ฮาวเด้น แมกซี่ ได้สะดวก ผ่านการเชื่อมต่อกับระบบจัดการร้านค้าปลีกของกลุ่มสบายฯ (SABUY POS) ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้บริการจาก ฮาวเด้น แมกซี่ ผ่านสาขาของร้านชิปป์สไมล์ ได้อีกช่องทางหนึ่ง

ด้านนายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะมีการเจรจากับพันธมิตรเข้ามาร่วมธุรกิจในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงการพันธมิตรในการเข้ามาร่วมลงทุน อย่างน้อย 3 ราย ซึ่งจะทยอยเห็นความชัดเจนต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากการที่บริษัทมีข้อมูล Big data ที่บริษัทมีอยู่ ทั้งในรูปแบบของการเงิน และการจำหน่ายสินค้า โดยเชื่อว่าจะเข้ามาเสริมศักยภาพในด้านต่างๆของธุรกิจแ และทำให้บริษัทมีธุรกิจที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews