นิวส์ คอนเน็คท์ - PTG กำไรงวด Q1/64 พุ่งกว่า 161% หรือ 531.3 ล้านบาท ตามปริมาณขายน้ำมันเพิ่ม - ธุรกิจ Non Oil โตต่อเนื่อง โบรกฯ ฟันธงกำไรปี 64 โตแน่ 15% ให้เป้า 25 บาท แนะนำ "ซื้อ"

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทได้แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/64 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีกำไรสุทธิ 531.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 203.2 ล้านบาท ผลจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันของพีทีจี ยังคงเติบโตอยู่ที่ 1,336 ล้านลิตร หรือเติบโต 9.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 2.4%จากไตรมาสที่แล้ว

โดยช่องทางการขายหลัก ยังคงมาจากการขายผ่านสถานีบริการครอบคลุมทั้งประเทศ ด้วยสัดส่วนการขายที่มากถึง 94.4% นอกเหนือจากการขยายสถานีบริการอย่างต่อเนื่อง การส่งมอบการบริการที่ดี และการสร้างความรับรู้ในแบรนด์แล้ว ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการเดิมยังคงเพิ่มขึ้น 3.8% จากปีที่แล้ว

ขณะที่ภาพรวมของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันในไตรมาสที่ 2/64 ยังเห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมาปริมาณการจำหน่ายน้ำมันของพีทีจียังสามารถเติบโตได้ที่ 15.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ระลอก 3 ก็ตาม ด้วยเหตุนี้ ทำให้พีทีจียังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 2 ของประเทศได้อย่างเหนียวแน่น ผ่านทุกช่องทาง และผ่านสถานีบริการ

นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายธุรกิจ Non-Oil อย่างต่อเนื่อง โดยพีทีจีมีปริมาณการขายแก๊ส LPG รวมเติบโต 56.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 7.6% จากไตรมาสก่อน ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มกาแฟพันธุ์ไทย ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมชุมชนด้วยการนำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมาใช้เป็นส่วนผสมในการพัฒนาสูตรอาหารและเครื่องดื่ม ส่งผลให้ Same Store Sales ในไตรมาส 1/64 ของกาแฟพันธุ์ไทยเติบโตกว่า 13.9% จากปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและการบริการใหม่ๆ พร้อมกับการเชื่อมโยงเข้ากับระบบบัตรสมาชิก PT Max Card เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดี และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งในไตรมาส 1/2564 พีทีจีได้เปิดตัวบัตรสมาชิก PT Max Card Plus ซึ่งเป็นครั้งแรกกับการให้บริการรูปแบบบัตรสมาชิกน้ำมันรายปีของไทย นอกจากนี้ พีทีจียังมีโครงการเกี่ยวกับพลังงานทดแทน เช่น สถานีชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้า ที่ร่วมมือกับ EGAT และโครงการพลังงานสะอาดอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการศึกษาและต่อยอด เป็นต้น

ด้านนักวิเคราะห์หลักท์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส เผยว่า จากการประเมิน PTG คาดกำไรสุทธิของปี 64 จะเติบโตได้ 15% โดยมีปัจจัยจาก 1) ปริมาณขายน้ำมันค้าปลีกสูงขึ้นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว 2) ขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่ม ซึ่งรองรับการเป็นสถานีชาร์ตแบตฯ EV ในอนาคตด้วย 3) ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มจะเริ่มทำกำไรได้ในปี 64 หลังจากมีการรีแบรนด์และประสิทธิภาพดีขึ้น ดังนั้น แนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาพื้นฐาน 25 บาท

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews