นิวส์ คอนเน็คท์ - ASIAN มั่นใจผลงาน Q2/64 พุ่งโตต่อเนื่อง หลังออเดอร์เข้าเพียบ กำลังผลิตพุ่งแตะ100% ตามความต้องการเพิ่มต่อเนื่อง มั่นใจอัตรากำไรสุทธิปีนี้มุ่งสู่ระดับ 15% เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 นางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/64 จะเติบโตกว่าช่วงไตรมาส 1/64 ที่มีกำไรสุทธิ 214.84 ล้านบาท และรายได้ 2,132.81 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ และอาหารแช่แข็งประเภททอด ที่ขณะนี้มีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งเป็นการสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้ายาวไปจนถึงเดือน ก.ค.64 โดยไลน์การผลิตสินค้า 2 ประเภทดังกล่าวนั้นขณะนี้้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ 100% ซึ่งภายหลังจากเดือน ก.ค.นั้น ยังมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเดิมและจากลูกค้าใหม่รออีกจำนวนมาก โดยสินค้าประเภทดังกล่าวนั้นยังได้มาร์จิ้นในระดับที่เหมาะสมอีกด้วย

พร้อมกันนี้ บริษัทได้เตรียมเงินลงทุนไว้ 400 ล้านบาท เพื่อนำมาเพิ่มศักยภาพในการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้น เบื้องต้นกำลังการผลิตของกลุ่มของทอดจะเพิ่มขึ้นอีก 30% โดยกระบวนการต่างๆคาดแล้วเสร็จพร้อมเริ่มดำเนินการได้ช่วงไตรมาส 3/64 ขณะที่ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ จะเพิ่มอีกประมาณ 4,000 ตันต่อปี แต่ด้วยปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงทำให้ไม่สามารถนำเข้าเครื่องจักรและติดตั้งได้ตามเวลาที่กำหนดในช่วงไตรมาส 3/64 โดยกระบวนการนำเข้าและติดตั้งจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 65 แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทปรับเปลี่ยนแผนโดยการใช้เครื่องจักรที่สามารถทดแทนได้ มาเติมในส่วนของโรงงานเดิม ซึ่งจะเป็นการใช้ชั่วคราว จึงทำให้เพิ่มกำลังการผลิตมาได้อีก 1,000 ตันต่อปี

นอกจากนี้ยังมีความสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยทางบริษัทมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการเข้าลงทุน หากธุรกิจที่เข้ามาสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับสูง ประกอบกับหนุนธุรกิจเดิมของบริษัทให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งระยะยาว เบื้องต้นมีความสนใจในประเภทธูรกิจที่คล้ายกับบริษัทที่มีแบรนด์และมีบษนลูกค้าในมืออยู่แล้ว รวมถึงธุรกิจที่เกื้อหนุนด้านช่องทางการจัดจำหน่ายให้แก่บริษัท

สำหรับภาพรวมปี 64 บริษัทมั่นใจรายได้จะอยู่ที่ระดับ 9,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 8,827 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้ ขณะที่อัตรากำไรสุทธิคาดจะอยู่ที่ประมาณ 15% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 9.27% เนื่องจากทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีความต้องการในระดับสูง และยังได้มาร์จิ้นต่อการขายที่ดี ประกอบกับค่าเงินบาทที่ยังอยู่ในระดับที่สามารถกำกับดูแลได้

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.comหรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connextช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews