Phones





กูรูหุ้นเชียร์"ซื้อ" EKH เคาะเป้า7.20 บ./หุ้น

2021-05-19 12:07:28 232



นิวส์ คอนเน็คท์ - บล.เคจีไอ เชียร์ “ซื้อ” หุ้น EKH ประเมินผลงานไตรมาส 2/64 โตต่อ พร้อมปรับเพิ่มเป้ากำไรสุทธิปี 64-65 ขึ้นอีก 11.6% และ 8.6% รับอานิสงส์โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ หนุนผู้ป่วยเข้าใช้บริการเพิ่มเต็มสูบ ชี้เป้าราคาพื้นฐาน 7.20 บาท 
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH โดยประเมินผลการดำเนินงานไตรมาส 2/64 คาดว่ามีแนวโน้มโดดเด่น เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในเดือน เม.ย. 64 ทำให้คาดว่ากำไรของ EKH จะปรับตัวดีขึ้น ทั้งจากงวดเดียวกันปีก่อน และไตรมาส 1/64 เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ  
นอกจากนี้ ยังได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 64-65 ขึ้นอีก 11.6% และ 8.6% ตามลำดับ เนื่องจากฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้จากงวดเดียวกันปีก่อนในปี 64-65 ขึ้นอีกจากเดิมอีก 1.1% และปรับลดสมมติฐานสัดส่วน SG&A/รายได้ ลงเหลือ 20.0 (จากเดิม 22%) สำหรับปี 64-65
ขณะที่ฝ่ายวิจัยยังปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 64 เป็น 36.5% (จากเดิม 36.2) เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นที่จะได้ผลบวกจากการประหยัดต่อขนาดของบริการตรวจโควิด-19 ดังนั้น จึงคาดว่ากำไรสุทธิของ EKH ในปี 64 จะอยู่ที่ 125 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น73.1%จากงวดเดียวกันปีก่อน) และในปี 65 จะอยู่ที่ 154 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 23.3% จากงวดเดียวกันปีก่อน)
อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของ EKH ยังมีแนวโน้มที่ดีในอีก 2-3 ปีข้างหน้า หลังจากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วไตรมาส 2/63 ทั้งนี้ เมื่ออิงตามประมาณการใหม่ ทางฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำ "ซื้อ" และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 65 ที่ 7.20 บาท (WAC ที่ 9%, TG ที่ 3% ) จากเดิม 6.20 บาท (อิงประมาณการปี 64)
ด้านนายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล EKH กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/64 ของกลุ่มบริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากไตรมาสแรกที่มีกำไรสุทธิ 33.46 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 215.24 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 และรายได้จากการตรวจโควิด ประกอบกับจำนวนมีผู้เข้ารับการรักษาโควิดเพิ่มขึ้น จนเกือบเต็มเช่นเดียวกับผู้ป่วย IPD และผู้ป่วย OPD จึงช่วยสนับสนุนให้รายได้และกำไรมีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และเชื่อมั่นว่าจะทำให้รายได้ปี 64 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากงวดเดียวกันปีก่อน