Phones





BEAUTY งบQ1/64ขาดทุนลดลง62% รุกธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิด

2021-05-20 15:23:51 232



นิวส์ คอนเน็คท์ - BEAUTY เผยผลงาน Q1/64 ขาดทุนลดลง 61.86% เดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ฝ่าวิกฤตโควิด-19 เร่งผลักดันยอดขาย มุ่งเน้นขยายช่องทางจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ 
 
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ได้แจ้งว่า จากสถานการณ์ของโรคไวรัสโควิด -19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมาก รวมถึงภาคการท่องเที่ยวยังไม่ดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังไม่มีเข้ามา กำลังซื้อของผู้บริโภคและบรรยากาศการจับจ่ายชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในปี 63 ต่อเนื่องมาในไตมาส 1/64 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

โดยบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/64 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีรายได้รวม 137.41 ล้านบาท ลดลง 49.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 29.21%จากไตรมาส 4/63 โดยสัดส่วนรายได้มาจาก ต่างประเทศ 44.74 % ร้านค้าปลีก 41.39 % อีคอมเมิร์ซ 7.23 % โมเดิร์นเทรด 2.47 % เจเนอรัลเทรด 0.92% อื่นๆ 3.25% และมีขาดทุนสุทธิ 15.13 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 61.86 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ดังนั้น บริษัทจึงได้ปรับกลยุทธ์และแผนธุรกิจตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ปี 63 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ ลดต้นทุนการผลิต การขาย และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการลงกว่า 60% รวมทั้งลดขนาดองค์กรให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจ ลดปริมาณสินค้าคงคลังลง 132% อีกทั้งรักษาสภาพคล่องของเงินสด โดยไม่มีหนี้สินกู้ยืม และมีกระแสงินสดมากกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งผู้บริหารของบริษัทคาดหวังว่าจากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าว จะลดผลกระทบจากสภาวะต่างๆ ได้ 


โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมปี 64 แบบค่อยเป็นค่อยไป หรือตั้งเป้าเติบโต 5% (Conservative Growth) และรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 5%โดยมีสัดส่วนรายได้ในประเทศ 62% และต่างประเทศ 38% พร้อมวางทิศทางการดำเนินธุรกิจ 3 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ ประกอบด้วย 1. ปรับโครงสร้างบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ (Re-structure) 2.พัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ (Re-model) 3.มุ่งเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีการขยายตัวสูง (Re-new) ปรับกลยุทธ์ตลาดในประเทศ มุ่งเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีการขยายตัวสูง และมีโอกาสในการเติบโต ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะการเปิดสาขาร้านค้าปลีก เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากฐานลูกค้าในประเทศเพิ่มขึ้น และสามารถสร้างตลาดได้ในระยะยาว

สำหรับแนวโน้มการปรับตัวของธุรกิจ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. ตลาดต่างประเทศมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ในสัดส่วน 50% จากเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะมุ่งเน้นส่งเสริมการตลาดในจีน โดยร่วมมือกับ Distributor ในประเทศจีนออกงานแสดงสินค้า “China International Beauty Expo Shanghai” เมืองเซียงไฮ้ ประเทศจีน รวมทั้งพัฒนาโมเดลการขายในต่างประเทศใหม่ “Product License” เพื่อความสะดวกในการพัฒนาสินค้าใหม่ และการบริหารจัดการในประเทศจีน และ 2.ตลาดในประเทศเร่งขยายช่องทางสินค้าอุปโภค (Consumer Product) กลุ่มสินค้า Fast Moving Consumer Goods ( FMCG ) เจาะกลุ่มผู้ค้าส่งเครื่องสำอางรายใหญ่ในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ (Local Distributor) ในปีนี้มีแผนแต่งตั้ง Distributor รายใหญ่ 8 รายที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ปัจจุบันแต่งตั้งเรียบร้อยแล้วจำนวน 5 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 5 เขต 49 จังหวัด.