Phones





CHAYO จ่อปิดดีลขายNPAกว่า100ล้าน โบรกฯเชียร์ซื้อ-เป้า18บ.

2021-05-21 09:53:53 403



นิวส์ คอนเน็คท์ - CHAYO จ่อปิดดีลขาย NPA มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ย้ำรายได้ปีนี้โตพุ่งกว่า 25% โบรกฯส่องกำไร 64 มีแววแตะ 249 ล้านบาท แนะ"ซื้อ" เป้าสูง 18 บาท
 
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาการจำหน่ายสินทรัพย์รอการขาย (NPA) มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท โดยคาดจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/64 ซึ่งได้มาร์จิ้นในการขายในระดับที่เหมาะสม จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง 

สำหรับภาพรวมทั้งปี 64 คาดรายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% ตามการบริหารจัดการหนี้เสียได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยช่วงไตรมาส 1/64 ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ มาแล้วประมาณ 1,680 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 2/64 จะเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีการเจรจาสถาบันการเงินอยู่หลายแห่ง มูลค่ารวมราว 60,000 ล้านบาท ดังนั้น ในปีนี้บริษัทคาดจะใช้เงินลงทุนราว 1,200 ล้านบาท เพื่อนำมาซื้อหนี้เสียเข้ามาบริหารเพิ่มอีก 10,000 ล้านบาท ส่วนธุรกิจปล่อยสินเชื่อ วางเป้ายอดการปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่ม 200 ล้านบาท
 
ขณะที่ธุรกิจกัญชง-กัญชา ล่าสุดทาง DOD ได้รับคืนใบอนุญาตินำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง-กัญชาแล้ว ในส่วนของ CHAYO ถ้าได้ใบอนุญาตปลูกกัญชง-กัญชา ก็จะนำเมล็ดพันธุ์จาก DOD มาปลูก เบื้องต้น วางแผนปลูกไม่เกิน 10 ไร่ และขายให้กับ DOD เพื่อให้ทาง DOD พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกัญชงต่อไป โดยคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายสินค้าได้ช่วงปลายปีนี้
 
ส่วนความคืบหน้าของ บริษัท ชโย เจวี จำกัด (Chayo JV) คาดว่าเดือน มิ.ย.64 จะได้ผู้ลงทุนเข้ามาร่วมถือหุ้น ซึ่งขณะนี้ Chayo JV ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้น คาดเริ่มมีการลงทุนจากผู้ลงทุนและพร้อมดำเนินงานได้ช่วงไตรมาส 3/64 เป็นต้นไป

ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรสุทธิของ CHAYO ในปี 64 คาดจะอยู่ที่ 249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อน หนุนโดยการลงทุนซื้อหนี้เสียมาบริหารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านบริษัท และ Chayo JV คาดเงินลงทุนในหนี้เสียปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 77% โดยประเมินว่าบริษัทจะมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอต่อการซื้อหนี้เสียมาบริหารที่สูงในระยะยาว โดยมาจาก 1. เงินสดรับ 3.8 พันล้านบาท จากการใช้สิทธิ CHAYO-W1 และ CHAYO-W2 ในปี 64-66 และ 2. Interest bearing debt/E (IBD/E) ที่อยู่ในระดับต่ำที่ 0.4x (เทียบ covenant ที่ 2.5x) นอกจากนี้ ประเมินว่าบริษัทจะเพิ่มสัดส่วนการซื้อหนี้ unsecured loan เพื่อให้มี cash collection ที่มั่นคงในระยะยาว ดังนั้น จึงแนะ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมายที่ 18.00 บาท.