Phones





SA ครึ่งปีหลังผุด3โครงการใหม่มูลค่า8พันล.

2021-06-17 15:10:29 293




นิวส์ คอนเน็คท์ - SA เผยครึ่งปีหลังผุดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 8 พันล้านบาท เชื่อความต้องการอสังหาฯในกรุงเทพฯ​ ยังสูง
เมื่อวันที่ 17 มิถุนยายน 2564 นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งหลังของปี 2564 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม Landmark @Grand Station มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ภายในเดือนมิถุนายนนี้  

ขณะเดียวกันมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการหมู่บ้านแนวราบระดับบน ถนนพรานนก – พุทธมณฑล มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท และ โครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ ติดทางลงสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีทุ่งสองห้อง มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้  

“บริษัทมีแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เพิ่มเติม บนทำเลทองที่มีความต้องการสูง เช่น ย่านถนนรามอินทราและบริเวณทุ่งสองห้อง โดยโครงการจะอยู่ใกล้บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายหลัก เน้นสินค้าที่มีราคาอยู่ระดับปานกลาง ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย ขณะเดียวกันจะเปิดโครงการบ้านเดี่ยว แนวราบ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าระดับบนในโซนปิ่นเกล้า พร้อมกับการจัดโปรโมชั่นช่วยดึงดูดความสนใจใน รูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าทำการเปิดขายโครงการใหม่ น่าจะได้รับความสนใจอย่างคึกคัก และจะช่วยผลักดันให้ปีนี้เติบโตได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ระดับ 4,800 ล้านบาท”

สำหรับแนวโน้มของความต้องการของการซื้ออสังหาฯในพื้นที่กรุงเทพฯ บริษัทประเมินว่ายังมีความต้องการสูง เช่น โครงการ Landmark @Grand Station มียอดจองสิทธิ์เข้ามาเลือกห้อง Pre-sale ถึงเกือบ 300 สิทธิ เนื่องจากโครงการต่างๆของบริษัท อยู่ในทำเลที่ตั้งที่ดี ติดถนนสายหลัก เช่น ถนนสุขุมวิท และใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายหลัก เหมาะสำหรับเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุน รวมถึงการใช้กลยุทธ์ด้านราคาที่คุ้มค่ากว่าคู่แข่งในทำเลเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า รวมทั้งปัจจุบันราคาที่ดินในทำเลที่ดี มีการปรับตัวสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้โครงการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมีจำนวนน้อยลง และมีราคาสูงขึ้น จึงทำให้เชื่อว่าโครงการของบริษัทฯจะได้รับความสนใจเป็นอย่างดี  

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สามารถควบคุมได้ในวงจำกัด หลังจากมีการฉีดวัคซีนตามแผนของรัฐบาลแล้ว และภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ โดยผ่อนปรนให้ต่างชาติ สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยได้ง่ายขึ้น ซึ่งมาตราการต่างๆ จะช่วยสนับสนุนให้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้มีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน