Phones





ส่งออกพ.ค.พุ่ง41% ขยายตัวสูงสุดรอบ11ปี

2021-06-24 13:29:29 480



นิวส์ คอนเน็คท์ - ส่งออกเดือน พ.ค. มูลค่า 23,057.91 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 41.59% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 11 ปี เหตุเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้นตัว และยังได้อานิสงส์จากแผนขับเคลื่อนส่งออกเชิงรุก พาณิชย์มั่นใจส่งออกทั้งปีโตเกิน 4% แน่นอน
     
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนพ.ค.2564 มีมูลค่า 23,057.91 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 41.59% หรือคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 714,885.27 ล้านบาท เป็นการขยายตัวเติบโตสูงสุดในรอบ 11 ปี และหากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัยออก การส่งออกจะบวกมากกว่า โดยบวกถึง 45.87% และการนำเข้ามีมูลค่า 22,261.96 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 63.54% เกินดุลการค้ามูลค่า 795.95 ล้านเหรียญสหรัฐ
     
ส่วนการส่งออกรวม 5 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่า 108,635.22 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.78% หากหักน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัยออก จะเติบโตถึง 17.13% และการนำเข้า มีมูลค่า 107,141.12 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.52% เกินดุลการค้ามูลค่า 1,494.10 ล้านเหรียญสหรัฐ
     
นายจุรินทร์กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกปรับตัวดีขึ้น มาจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ ๆ ของไทย เริ่มฟื้นตัว เช่น สหรัฐฯ จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น เป็นต้น และยังได้รับผลดีจากแผนการขับเคลื่อนการส่งออก ที่กระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนและทำอย่างเข้มข้นต่อเนื่องในรูป กรอ.พาณิชย์ ทำให้แก้ปัญหาอุปสรรคได้รวดเร็ว ทันท่วงที และยังได้มีการจัดทำแผนเชิงรุกร่วมกัน โดยมีเป้าหมายและรายละเอียดชัดเจนมาแต่ต้นปี ทำให้ตัวเลขการส่งออกปีนี้ ค่อยๆ เป็นบวกขึ้นตามลำดับ
      
สำหรับแผนในระยะต่อไป จะยังคงดำเนินการภายใต้ กรอ.พาณิชย์ ประกอบด้วยการเร่งรัดเปิดตลาดใหม่ ให้มีผลในภาคปฏิบัติเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นตลาดตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศที่แตกจากรัสเซีย กลุ่มเอเชียใต้ และแอฟริกา , การเร่งรัดการค้าชายแดนและผ่านแดน โดยจะเร่งเปิดด่านที่มีอยู่ 97 ด่านให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่เปิดแล้ว 45 ด่าน โดยเป้าระยะสั้น จะผลักดันเปิดเพิ่มอีก 11 ด่าน และในวันที่ 9-11 ก.ค.2564 จะเดินทางไปดูด่านชายแดนที่สปป.ลาว ที่จะผ่านทะลุเวียดนามไปจีน เช่น ด่านปากแซง ด้านท่าเทียบเรือมุกดาหาร นครพนม และหนองคาย
     
นอกจากนี้ จะเร่งส่งเสริมการส่งออกและการเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มยอดการส่งออก และหากสามารถดำเนินการในระบบออฟไลน์ได้ ก็จะเร่งดำเนินการต่อไป เป็นการผสมผสานแบบไฮบริด , เร่งทำมินิเอฟทีเอกับเมืองเป้าหมาย ได้แก่ ไหหนาน จีน เตลังกานา อินเดีย คยองกี เกาหลีใต้ และโคฟุ ญี่ปุ่น ขณะนี้สัญญาณล่าสุดอาจจะสามารถลงนามกันได้ช่วงเดือนก.ค.-ส.ค.2564 โดยประมาณ และจะเร่งสร้างแม่ทัพการค้าและแม่ทัพส่งออกรุ่นใหม่ เพื่อเป็นอนาคตสำหรับการนำเงินเข้าประเทศ โดยจะเร่งปั้นเจนซีเป็นซีอีโอ ซึ่งปีนี้ดำเนินการได้ครบ 12,000 รายแน่นอน
     
ส่วนเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 4% น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เพราะตัวเลข 5 เดือนทำได้แล้ว 10.78% คาดการณ์ว่าแนวโน้มจากนี้ไป การส่งออกจะสามารถทำหน้าที่เป็นหัวจักรสำคัญ เป็นพระเอกขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศได้อยู่ ยกเว้นมีวิกฤตอะไรมากระทบไทยมาก ๆ หรือกระทบไปทั้งโลก อันนั้น นอกเหนือการคาดการณ์ โดยจะพยายามทำให้ดีที่สุด และจับมือเอกชนทำงานใกล้ชิด ทั้งการแก้ไขปัญหาส่งออกและกิจกรรมส่งออก