Phones





NER ใจดีจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.07 บาท/หุ้น

2021-08-09 14:42:01 359




นิวส์ คอนเน็คท์ - NER คณะกรรมการอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลจากงวด 6 เดือนปี 2564 ในอัตรา 0.07 บาท/หุ้น XD 23 ส.ค. โดยจ่ายปันผลเป็นเงินสด กำหนดจ่าย 6 ก.ย. 64 อวดงบ 6 เดือนกำไรสุทธิ 805.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182.79% จ่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 50,000 ตัน ปลายปีนี้

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า มติคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.64 อนุมัติการจ่ายเงินปันระหว่างกาลผลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.64 - 30 มิ.ย.64 โดยจ่ายปันผลเป็นเงินสด อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.07 บาทต่อหุ้น วันที่จ่ายปันผล 6 ก.ย.64 รวมเป็นเงิน 115.17 ล้านบาท คิดเป็น 15.05% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมายตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ สำหรับวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 23 ส.ค.64 วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 24 ส.ค.64

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.64 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 11,252.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,605.88 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายรวม 5,646.76 ล้านบาท หรือคิดเป็น 99.28% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 805. 34 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 520.55 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 284.79 หรือคิดเป็น 182.79%

โดยสัดส่วนการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายเป็นผลมาจากปริมาณคำสั่งซื้อลูกค้าในประเทศและการส่งมอบจากกลุ่มลูกค้าโรงงานผลิตยางรถยนต์จีนที่ยังคงสูงอยู่ โดยจะเห็นจากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ยางแท่ง STR ที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิตในส่วนโรงงานยางแท่ง แห่งที่ 2 ส่งผลให้มีปริมาณขายเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาขายเฉลี่ยในไตรมาส 2/64 สูงกว่าไตรมาส 2/63 ซึ่งเมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน

ส่วนภาพรวมธุรกิจของปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 2.45 หมื่นล้านบาท และปริมาณขายที่ 4.4 แสนตัน เนื่องจากบริษัทมีความสามารถในการผลิตเพิ่มขึ้น ที่สามารถรองรับยอดขาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าจากสิงคโปร์และอินเดีย ประกอบกับราคายางปรับขึ้นต่อเนื่อง และได้ลูกค้าใหม่เพิ่มหลายราย

นอกจากนี้ในปลายปี 64 บริษัทมีแผนจะขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 50,000 ตัน เป็น 510,000 ตัน โดยจะลงทุนซื้อเครื่องจักรประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อรองรับลูกค้าทั้งรายใหม่และรายเก่าที่ต้องการสั่งสินค้าเพิ่มขึ้น ด้านเครื่องจักรผลิตแผ่นยางปูรองนอนสัตว์ บริษัทคาดว่าจะนำเข้ามาติดตั้งในช่วงปลายปี 64 ซึ่งบริษัทคาดจะรับรู้รายได้จากธุรกิจนี้ในปี 65 ที่ 2.8% ของประมาณการณ์ ซึ่งบริษัทจะสามารถขยายตลาดและสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน