Phones





CRC อัดกลยุทธ์ระยะยาวสร้างนิวไฮกลุ่มฮาร์ดไลน์-ออมนิแชนแนล

2021-08-16 16:41:27 219



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - CRC ผลประกอบการไตรมาส 2/64 เติบโต 12% เดินหน้ากลยุทธ์ระยะยาว สร้างนิวไฮกลุ่มฮาร์ดไลน์ และออมนิแชนแนล
 
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เซ็นทรัล รีเทล ยังคงเดินหน้าธุรกิจต่อไปอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่รวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแผนการทำธุรกิจในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
 
นอกจากนี้ ยังได้ปรับโมเดลธุรกิจและพอร์ตโฟลิโอให้มีความยืดหยุ่น สอดคล้องตามเทรนด์ตลาด และความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจออมนิแชนแนล และกลุ่มฮาร์ดไลน์เติบโตสูงเป็นนิวไฮ จนสามารถสร้างรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมทั้งดันผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/64 เติบโตขึ้น โดยมีรายได้รวม 46,376 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน EBITDA 4,088 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 218% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 426 ล้านบาท ฟื้นตัว 83% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
 
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/64 ได้เห็นการเติบโตอย่างมีศักยภาพของธุรกิจฮาร์ดไลน์ ที่ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้ง เซ็นทรัล รีเทล โดยเติบโตเป็นอันดับหนึ่งจากทุกกลุ่มทั้งด้านรายได้รวม EBITDA และกำไรสุทธิ ทั้งยังมีสัดส่วนยอดขายเพิ่มสูงขึ้นจาก 32% เป็น 39% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการทำตามกลยุทธ์เชิงรุกที่ได้ตั้งไว้ ทั้งการควบรวม บมจ.ซีโอแอล (COL) ที่ทำให้ธุรกิจฮาร์ดไลน์สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่ม B2B รวมถึงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของไทวัสดุ ซึ่งได้เปิดให้บริการไปแล้ว 4 สาขาในปีนี้ และจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาภายในสิ้นปี นอกจากนี้ยังเตรียมแผนที่จะขยายไทวัสดุไปยังประเทศเวียดนามอีกด้วย
 
ขณะที่บริษัทจะมีการเพิ่มช่องทางการขายใหม่ ๆ ของแพลตฟอร์มออมนิแชนแนล อาทิ บริการ Personal Shopper ผู้ช่วยช้อปส่วนตัวสำหรับลูกค้าทุกคน ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ต, การเพิ่มจำนวนสาขาของท็อปส์ที่ให้บริการควิกคอมเมิร์ซ และการเปิดตัวแอปพลิเคชัน GO! ของธุรกิจฟู้ดในประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ยังเห็นความสำเร็จของ CENTRAL App ซูเปอร์แอปพลิเคชันที่เป็น One-stop Shopping รวมสินค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล ครบจบในที่เดียว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมบริการช้อปส่งไวถึงมือภายใน 3 ชั่วโมง โดยปัจจุบัน CENTRAL App มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 2.7 ล้านดาวน์โหลด ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากการเปิดตัวครั้งแรกในเดือนธ.ค.63
 
ในส่วนของการขยายธุรกิจ Property นั้น  มีการขยาย ปรับปรุง และเปลี่ยนโฉมสาขาอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ โดยในประเทศเวียดนาม ได้เปิดศูนย์การค้า GO! สาขาท้ายเหงียนในเดือนเมษายน และยังเตรียมเปิด GO! สาขาใหม่อีก 2 แห่ง ภายในไตรมาสที่ 3/64 นี้
 
“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 คือเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงกลยุทธ์เชิงรุกในการดำเนินธุรกิจและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยในครึ่งปีหลังเราจะยังคงเน้นการเติบโตและการขยายธุรกิจผ่านการลงทุน การควบรวม และการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการจัดการวิกฤตโควิด-19 และมีมาตรการดูแลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งพนักงาน, ลูกค้า, คู่ค้า, ผู้ถือหุ้น และชุมชน ตลอดจนยกระดับมาตรฐานด้านสาธารณสุขในการให้บริการอย่างเคร่งครัด ทำให้เราเชื่อมั่นว่าเมื่อประเทศไทยสามารถเปิดประเทศ และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เซ็นทรัล รีเทล จะเป็นรายแรก ๆ ที่สามารถกลับมาเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม” นายญนน์ กล่าว