Phones





BGC รุกครึ่งปีหลัง สร้างเตาหลอมแก้วใหม่-เพิ่มกำลังผลิต

2021-08-18 12:09:17 237



นิวส์ คอนเน็คท์ - BGC เปิดแผนครึ่งปีหลัง เร่งก่อสร้างเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ใน จ.ราชบุรี ลงทุนขยายกำลังการผลิตใน จ.ปราจีนบุรีอีก 440 ตันต่อวัน ดันกำลังการผลิตรวมเพิ่มเป็นเกือบ 4,000 ตันต่อวัน วางเป้าหมายเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกแม้มีปัจจัยลบ หลังควบรวมกิจการเข้าถือหุ้น 100% ใน BGP และ BVP ดันสัดส่วนรายได้ส่งออกเป็น 10% 
 
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ในไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มุ่งเน้นการเร่งลงทุนก่อสร้างเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ภายในโรงงานจังหวัดราชบุรี และลงทุนขยายกำลังการผลิตในโรงงานจังหวัดปราจีนบุรี หลังได้รับการอนุมัติแผนลงทุนจากคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อขยายกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นอีก 440 ตันต่อวัน ใช้งบลงทุนรวม 2,500 ล้านบาท

โดยโรงงานดังกล่าวจะใช้เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ สามารถควบคุมอุณหภูมิและต้นทุนด้านพลังงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งมีความยืดหยุ่นในการผลิตสูง เพื่อรองรับความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์แก้วจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างจนแล้วเสร็จอีกประมาณ 18 เดือน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวมทุกโรงงานเพิ่มขึ้นจาก 3,495 ตันต่อวัน เป็น 3,935 ตันต่อวัน ครองส่วนแบ่งการตลาดผู้นำด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วในประเทศ 

ล่าสุด บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าใช้งบลงทุน 176 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตถุงบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน สูงสุด 50 ล้านเมตรต่อปี ผ่านบริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (BGP) ที่เป็นบริษัทย่อย หลังได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อย เพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงและรุกขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสต่อยอดรุกเข้าสู่ธุรกิจกลางน้ำเพื่อผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) รองรับเป้าหมายการเติบโตของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ในอนาคต คาดว่าจะเริ่มการลงทุนก่อสร้างในไตรมาส 1/2565 และผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายในไตรมาส 1/2566  

สำหรับแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลัง วางเป้าหมายรักษาการเติบโตในระดับเดียวกับช่วงครึ่งปีแรกและเติบโตใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์ COVID-19 ในปี 62 อย่างไรก็ตาม คาดว่าความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์จะได้รับผลกระทบชั่วคราวจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ หากมีการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวและมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง มั่นใจว่าดีมานด์ด้านบรรจุภัณฑ์จะกลับมาเติบโตอย่างรวดเร็ว 

ขณะที่ตลาดต่างประเทศคาดว่าจะเติบโตได้ดี โดยวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกในปี 64 เป็น 10% ของรายได้รวม โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกาที่มีแนวโน้มที่ดีจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ จึงคาดว่ายอดขายในปีนี้จะมีการเติบโตทั้งจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วและจากการควบรวมกิจการ ใน BGP และบริษัท บางกอกบรรจุภัณฑ์ จำกัด (BVP) ซึ่งมียอดขายในปีนี้รวมประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา เสริมศักยภาพให้กับธุรกิจหลักอย่างบรรจุภัณฑ์แก้วด้วยการนำเสนอบริการแบบครบวงจร (One stop service) ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์แก้ว พร้อมฉลาก ฝา และกล่องกระดาษ ยกระดับสู่การเป็น Total Packaging Solutions หรือผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร