Phones





WHAUP ผลงานครึ่งปีหลังโตต่อ โบรกฯแนะ"ซื้อ"เป้า5.30บ.

2021-08-23 12:38:25 227



นิวส์ คอนเน็คท์ - WHAUP มั่นใจ ผลงานครึ่งปีหลังโตต่อ หลังปริมาณการใช้น้ำ-การขายไฟฟ้าเพิ่ม รุกยายธุรกิจ Solar Rooftop ครบ 300 MW ปี 66 ตามแผน โบรกฯ ชี้เป้า 5.30 บาท แนะนำ "ซื้อ"  

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 นายนิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก ผลจากปริมาณการขายน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับโรงไฟฟ้าทั้งหมดสามารถเดินเครื่องได้เต็มประสิทธิภาพ จากช่วงครึ่งปีแรกที่มีการปิดซ่อมบำรุงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งคาดจะมีการเซ็นสัญญาการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เพิ่มเติมภายในเร็วๆ นี้ รวมถึงโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 17 เมกะวัตต์ จะเริ่ม COD ได้เร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน อนึ่ง ครึ่งปีแรก บริษัทมียอดปริมาณการใช้น้ำรวมทั้งสิ้น 67 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีกำลังผลิตไฟฟ้าที่ COD รวม 596 เมกะวัตต์ 
 
ด้านธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จะยังคงมีการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นกำลังการผลิตไฟฟ้า โดยในไตรมาส 2/2564 โครงการ Solar Rooftop ที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 46 เมกะวัตต์ และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการ Solar Rooftop รวมแล้วทั้งสิ้น 62 เมกะวัตต์ จากเป้าปี 2564 ที่วางไว้ 90 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าในปี 2566 จะขยายธุรกิจ Solar Rooftop ได้ครบ 300 เมกะวัตต์ตามแผนที่วางไว้  

ทั้งนี้ บริษัท ยังคงเดินหน้าการพัฒนาโครงการด้านนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบการซื้อขายไฟฟ้าแบบ P2P Energy Trading โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain รวมถึงการนำระบบกักเก็บพลังงาน Battery Energy Storage System (BESS) มาใช้ควบคู่กับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในเร็วๆนี้ รวมทั้งยังคงแสวงหาโอกาสในการลงทุนเข้าซื้อกิจการ (M&A opportunity) ต่างๆ เพื่อเสริมศักยภาพการเติบโต

ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ระบุว่า จากการประเมิน WHAUP เชื่อว่ากำไรจาก Gheco-One จะสูงขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/64 เป็นต้นไปเนื่องจากไม่มีปิดซ่อมบำรุง โซลาร์หลังคา 16.7MW จะเริ่ม COD ในครึ่งปีหลังและจะเซ็นสัญญาอีก 20MW ในส.ค. ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าที่ COD แล้วเพิ่มเป็น 633MWe การควบรวมกิจการโครงการโซลาร์ฟาร์ม 250MW ในเวียดนามยังไม่แน่นอน แต่บริษัทยังคงมองหาโอกาสใหม่ ๆ ดังนั้น จึงให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 5.30 บาท แนะนำ "ซื้อ"