Phones





ITEL โชว์สัญญาในมือ3,200ล้าน อัพรายได้ปีนี้โตเกิน20-30%

2021-08-24 18:28:29 229



นิวส์ คอนเน็คท์ - ITEL เผยแผนธุรกิจครึ่งหลังปี 64 บุกธุรกิจโซลูชั่นใหม่เน้นกลยุทธ์ New S-curve ขยายฐานลูกค้า ขณะที่ผลประกอบการครึ่งปีแรก กำไรสุทธิ 93.03 ล้านบาท มั่นใจครึ่งปีหลังเป็นไปตามแผน ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องจาก สร้างผลงานตามเป้า 2,800 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะเสนองานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และมีแผนการกระจายรายได้และความยั่งยืนในการเติบโตในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ในกลุ่มธุรกิจใหม่ โดยนำความเชี่ยวชาญด้านโครงข่ายไฟเบอร์ออพติก มาพัฒนาโซลูชันใหม่ตามทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในปี 2564 ซึ่งจะเน้นการขับเคลื่อนธุรกิจให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเสริมคุณภาพบริการ โดยมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้โต 20-30% หรือที่ 2,800 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ประกาศ ผลประกอบการไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 452.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.04% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (ไม่รวมรายการพิเศษ) และมีกำไรสุทธิ จำนวน 47.13 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิหลังหักรายการพิเศษ 39.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.44% แสดงให้เห็นว่าแม้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 บริษัทฯ ยังคงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม 

โดยมีสัดส่วนของรายได้จากการให้บริการโครงข่ายในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 321.35 ล้านบาท ขณะเดียวกันธุรกิจการให้บริการติดตั้งโครงข่าย มีรายได้อยู่ที่ 96.38 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ยังคงบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการรับงานติดตั้งโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ และลูกค้ามีความมั่นใจในบริการของบริษัทฯ ขณะที่รายได้จากการให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ มีรายได้อยู่ที่ 20.19 ล้านบาท 

คาดว่าต่อจากนี้ ทุกหน่วยธุรกิจที่จะสร้างผลตอบแทนอย่างเต็มที่ ได้แก่ ธุรกิจ การให้บริการโครงข่าย โดยมีปัจจัยมาจากที่ บริษัทฯสามารถผลักดันยอดขายจากลูกค้าที่เข้ามาใช้งานบริการโครงข่ายได้เพิ่มมากขึ้น และการเริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการโครงการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลได้แบบเต็มปี ธุรกิจการให้บริการติดตั้งโครงข่ายที่ได้ปัจจัยหนุนจากภาครัฐ ขณะที่ธุรกิจ การให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ ซึ่งมีความต้องใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามเทรนด์ของโลกยุคดิจิทัลเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องเร่งขยายพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการ Work From Home ซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนผลประกอบการในปี 2564 ให้เติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2564 และในอนาคตของบริษัทฯ มีแนวโน้มที่ดีจากโครงข่ายที่ครอบคลุมถึง 75 จังหวัด ทำให้โครงข่ายมีเสถียรภาพมากขึ้นและสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้บริษัทฯ มีความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมไปถึงโซลูชั่นที่บริษัทฯ นำเสนอตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทำให้บริษัทฯ มั่นใจมากว่าจะสามารถปิดการขายและได้สัญญาในมือมาเพิ่มในไตรมาส 3 อีกกว่า 700 ล้านบาท สนับสนุนให้ผลงานปีนี้มีการเติบโตสูงขึ้นตามแผนงานที่วางไว้ 

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสัญญาในมือ (Contract in Hand) อยู่แล้วทั้งสิ้น 3,179 ล้านบาท แบ่งเป็นงานให้บริการต่อเนื่อง (Recurring) จำนวน 2,843 ล้านบาท ได้แก่ งานให้บริการโครงข่าย 2,659 ล้านบาท และงานให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ 184 ล้านบาท และงานให้บริการไม่ต่อเนื่อง (Non-Recurring) คือ งานให้บริการติดตั้งโครงข่าย 336 ล้านบาท สนับสนุนเป้าหมายทั้งปี 2564 ที่วางไว้จะมีรายได้เติบโต 20-30 % จากปีก่อน ขณะเดียวกัน จะให้ความสำคัญกับอัตรากำไรสุทธิที่ดีมากขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่วางไว้ อีกทั้งคาดการณ์ว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นแตะ 40% ได้ภายใน 5 ปี จากการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

อีกทั้งบริษัทฯยัง ประเมินว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมบริการให้คำปรึกษา ออกแบบและดำเนินการติดตั้งโครงข่ายที่เกี่ยวข้องกับระบบสื่อสารความเร็วสูงแบบครบวงจร ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้องค์กรทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต้องลงทุนพัฒนาระบบไอทีให้มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับขีดความสามารถในการแข่งขัน บริษัทฯในฐานะหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจโทรคมนาคม จึงแสวงหาโอกาสในการขยายการเติบโตสู่ New S-Curve พร้อมวางการดำเนินธุรกิจสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า