Phones





JMART จ่อรับเงินเพิ่มทุนหมื่นล.จากกลุ่มBTSช่วงQ4นี้

2021-08-30 12:49:06 259



นิวส์ คอนเน็คท์ - JMART คาดได้รับเงินเพิ่มทุนจากกลุ่ม BTS ภายใน Q4/64 หวังนำเงินขยายธุรกิจทุกด้าน ดัน SINGER-JMT ขึ้นสู่เบอร์ 1 ของธุรกิจ พร้อมผุดโปรเจ็กต์แรกร่วม BTS ทันที มั่นใจฐานกำไรปี 65-67 โต 50% ทุกปี  

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า จากที่บริษัทได้ทำการเพิ่มทุนจำนวน 384,803,597 หุ้น โดยเป็นการเพิ่มทุนรูปแบบ PP ให้กับทาง บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI จำนวน 206 ล้านหุ้น และ ให้บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U จำนวน 136 ล้านหุ้น รวมเป็นทั้งสิ้น 342 ล้านหุ้น ที่ราคา 30.337 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,375 ล้านบาท พร้อมทั้งออก JMART-W6 แบบ PP ให้ VGI และ U จำนวน 42 ล้านหน่วย ซึ่งจะแปลงป็น JMART อัตรา 1:1 ราคาใช้สิทธิ 30.337 บาท 

ขณะที่ทางบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ได้เพิ่มทุน RO อัตราส่วน 4.558 หุ้นเพิ่้มทุนต่อ 1 วอแรนต์ คิดเป็นจำนวนหุ้น 240.9 ล้านหุ้น ที่ราคาเพิ่มทุน 41.5 บาท และยังออก JMT-W4 ให้กับผู้ที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน RO ในอัตราส่วน 3.418 หุ้นเพิ่มทุน และบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ประกาศเพิ่มทุน RO จำนวน 96 ล้านหุ้น และเพิ่มทุน PP ให้ U จำนวน 197 ล้านหุ้น ราคา 36.3 บาท และออก SINGER-W3 ให้ U จำนวน 11.56 ล้านหน่วย โดยวอแรนต์อายุ 1 ปี 6 เดือน

โดยแผนการใช้เงินที่ได้รับนั้น แบ่งเป็น 1. JAMRT ได้รับเงินประมาณกว่า 1 หมื่นล้าน นำมาเพิ่มทุนใน JMT และ SINGER ต่อไป เพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น รวมถึงใช้ในการชำระหนี้สถาบันการเงินและหุ้นกู้เพื่อลดภาระดอกเบี้ยแต่ละปี, 2. JMT ได้รับเงินประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจะเข้าไปซื้อหนี้เสียในตลาด รวมถึงเข้าไปประมูลหนี้เสียและสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เพื่อเพิ่มพอร์ตให้โตขึ้น และจะทำให้บริษัท JMT เป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมการติดตามหนี้และบริหารจัดการหนี้เสียภายใน 3 ปี จากนี้, 3. SINGER ได้รับเงินประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ใช้ในการขยายพอร์ตสินเชื่อ เพื่อก้าวเป็นเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรม Non-Bank ภายใน 5 ปีจากนี้ พร้อมทั้งไปชำระหนี้เพื่อลดดอกเบี้ยจ่ายต่อปี 

ทั้งนี้ กระบวนการการเพิ่มทุนที่จะเกิดขึ้น คาดแล้วเสร็จได้ภายในช่วงไตรมาส 4/64 โดยโปรเจ็กต์แรกที่จะร่วมกับกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS คือ เกี่ยวข้องกับ Fin Coin หากมีความชัดเจนของโครงการจะแจ้งให้นักลงทุนทราบต่อไป 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ มั่นใจจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จากทุกธุรกิจในเครือที่เติบโตอย่างมั่นคง และภายหลังจากการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจแล้ว จะส่งผลให้ฐานกำไรสุทธิของบริษัทมีการเติบโต 50% ในช่วงปี 65-67 และหลังจากนั้นจะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นทุกปี